จีนศึกษา

จีนศึกษา๑๕๐ โอกาสทางการค้าของไทยในยูนนาน

 

โอกาสอันดีของประเทศไทยในการแสวงหาผลประโยชน์ร่วม จากความเคลื่อนไหวในการพัฒนาอุตสาหกรรมสำคัญของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเหมิ่งล่า ในพื้นที่เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนานของจีน ซึ่งจะเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมสำคัญ ด้าน ได้แก่

     .การพัฒนาด้านอุตสาหกรรมการเกษตรโดยยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรดั้งเดิม อาทิธัญพืช ยางพารา ใบชา และอ้อย ฯลฯ รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งต่ออุตสาหกรรมเกษตรใหม่ที่โดดเด่น เช่น ยาสมุนไพรไทลื้อ ดาวอินคา แมคคาเดเมีย และวัสดุไม้ โดยสนับสนุนการสร้างนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอันทันสมัยและพัฒนาการแปรรูปเชิงลึก

     . การพัฒนาด้านการแปรรูปเพื่อการส่งออก โดย พัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูป เช่น ยางพาราและใบชา แร่ การแปรรูปไม้ อุปกรณ์เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ โดยส่งเสริมความร่วมมือด้านการแปรรูปสินค้าเกษตรกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ข้าวข้าวโพด ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์สัตว์และสัตว์น้ำ ฯลฯ

     . การพัฒนาด้านการค้าและโลจิสติกส์ โดยสร้างตลาดและศูนย์ขนส่งสินค้าโดยเฉพาะอาทิ สินค้าเกษตร วัสดุไม้ ผลิตภัณฑ์แร่ อุปกรณ์เครื่องจักรกล ของใช้ในชีวิตประจำวัน อุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์ และของที่ระลึก ฯลฯ โดยสร้างศูนย์โลจิสติกส์ที่ทันสมัยเพื่อเชื่อมจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามแนวเส้นทางจิ่งหงบ่อหานหลวงน้ำทาเชียงใหม่กรุงเทพ และเส้นทางคุนหมิงบ่อหานหลวงพระบางเวียงจันทน์ เป็นต้น

     . การพัฒนาด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว โดย ส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวนานาชาติ เช่น เส้นทางท่องเที่ยวจิ่งหง (เชียงรุ้ง) –หลวงพระบางเชียงใหม่เชียงตุง ทำให้เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเหมิ่งล่าและเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ไม่ใช่เป็นเพียงแค่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่สำคัญเท่านั้น แต่กลายเป็นแหล่งนัดพบและจุดพักสินค้าที่สำคัญระหว่างจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

     ทั้งนี้ พื้นที่ทดลองเขตเศรษฐกิจพิเศษเหมิ่งล่า ซึ่งมีขนาดพื้นที่ ,๐๐๐ ตร.กม. ได้แบ่งเป็นพื้นที่ร่วมพัฒนาจีนลาว โดยมีขนาดพื้นที่ในฝั่งจีน .๘๓ ตร.กม. และในฝั่งลาว ๑๖. ตร.กม. สำหรับในอนาคตฝั่งจีนจะขยายเพิ่มเป็น ๓๕ ตร.กม. ในปี ..๒๕๗๓ ทั้งนี้ ปัจจุบันกำลังสร้างเป็นเขตทัณฑ์บนภาษีและปลอดภาษีแล้ว โดยจะเสร็จสมบูณ์ในอีก ปี นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าและกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดภายในประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจเหมิ่งล่า ที่มีปริมาณสินค้าจากไทยและลาว ผ่านเข้ามาในช่วงปี ..๒๕๖๒ ปีละประมาณ ล้านตัน โดยสินค้าไทยส่วนใหญ่ ได้แก่ หมอนยางพารา มาม่า และเครื่องสำอางค์ เป็นต้น

     ดังนั้น จึงนับเป็นโอกาสดีของประเทศไทย หากสามารถสร้างความร่วมมือระหว่างกัน ในการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเหมิ่งล่าของจีน กับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดเชียงรายของไทย โดยเฉพาะบนสองปลายทางของเส้นทาง R3A จะทำให้ถนนเส้นนี้ เกิดการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน แต่ทั้งไทยและจีนก็ควรคำนึงถึงความสมดุลจากการพัฒนาเพื่อการได้รับผลประโยชน์ร่วมกันแบบ win-win อันจะก่อให้เกิดผลดีต่อทั้งไทยและจีน อาทิ การแปรรูปสินค้าเกษตร รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งไทยมีทักษะความชำนาญ และในด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ ซึ่งจีนมีทักษะความชำนาญ เป็นต้น

ประมวลโดย พลโท ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

(ข้อมูลจากเอกสารของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา องค์การมหาชน,๒๕๕๘. พลวัตรของจีนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและนัยต่อประเทศไทย. กรุงเทพฯ : บริษัทสหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับบิสซิ่ง จำกัด )

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า