จีนศึกษา๑๐๙ ปัญหาหมู่เกาะ
กรอบแนวคิดของจีนต่อความร่วมมือทางทะเล ซึ่งระบุไว้ในสมุดปกขาวเกี่ยวกับนโยบายว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงในเอเชีย–แปซิฟิก
๑. สถานการณ์ภาพรวมทางทะเลในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก ยังคงมีเสถียรภาพ ทั้งนี้เพราะทุกฝ่ายยังคงมีผลประโยชน์ร่วมกัน และมีฉันทามติที่จะดำรงรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและเสรีภาพในการเดินเรือ รวมทั้งการใช้เส้นทางบิน แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาจากภัยคุกตามต่อความมั่นคงทางทะเลในรูปแบบใหม่ อาทิ ปัญหาโจรสลัด ปัญหาการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ และปัญหาการค้ามนุษย์ ฯลฯ ได้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางทะเล
๒. จีนเรียกร้องให้มีความร่วมมือให้มีความช่วยเหลือระหว่างประเทศ เพื่อรักษาผลประโยชน์ด้านความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน โดยยึดถือแนวทางการปฏิบัติของกฎบัตรสหประชาชาติ และหลักการพื้นฐานของกฎหมายทางทะเล ทั้งที่เป็นกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายใหม่ทางทะเล รวมถึงอนุสัญญา สหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.๑๙๘๒ (United Nations Convention on the Law of the Sea, 1982 : UNCLOS) และหลักการพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติห้าประการ
๓. จีนมีสิทธิ์เหนือหมู่เกาะหนานชา (หรือหมู่เกาะสแปรตลีย์) และน่านน้ำบริเวณใกล้เคียง แม้จะมีความขัดแย้งกับชาติอื่นที่อ้างสิทธิ์เช่นกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ในอำนาจอธิปไตยของจีน ที่จีนจะต้องปกป้องดินแดนและน่านน้ำของจีนตลอดจนผลประโยชน์ของชาติ แต่จีนมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ดังกล่าวโดยสันติ และยอมรับการเจรจาปรึกษาหารือ เพื่อนำมาซึ่งความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา เช่น จีนกับอาเซียนมีการติดต่อสื่อสารและเจรจาหารือกันอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับปัญหาในทะเลจีนใต้ ซึ่งกำลังมีความก้าวหน้ามากขึ้นจากการร่วมมือกันดำเนินการตามปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (Declaration on the Conduct of Parties in the South China Sea: DOC) ซึ่งริเริ่มขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.๒๐๐๒(พ.ศ.๒๕๔๕) ให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติเป็นระเบียบปฏิบัติ (Code of Conduct – COC) อย่างเป็นทางการต่อไป เพื่อการมีเสถียรภาพและการรักษาความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาคนี้
๔. ปัญหาหมู่เกาะเตี้ยวหวี (Diaoyu) และการแบ่งเขตทางทะเลในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งจีนกับญี่ปุ่นยังคงมีการเจรจาหารือในระดับสูงตลอดมา โดยจีนยืนยันว่า หมู่เกาะเตี้ยวหวีอยู่ในอำนาจอธิปไตยของจีนจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และความชอบธรรมพื้นฐาน แต่ทั้งจีนและญี่ปุ่นต่างเห็นพ้อง ในการดำรง การติดต่อสื่อสารเพื่อบริหารจัดการกับวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยฉันทามติร่วมกัน อาทิ การควบคุมทางอากาศและทางทะเล การบังคับใช้กฎหมายทางทะเล การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การค้นหาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งการประมง เป็นต้น ทั้งนี้จีนแสดงเจตนารมณ์ที่จะใช้การเจรจาปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหากับญี่ปุ่น นอกจากนี้ ในเดือน ธ.ค.๕๘ จีนกับเกาหลีใต้ก็ได้บรรลุข้อตกลงในการแบ่งเขตทางทะเลและเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
(ข้อมูลจากเว็บไซต์http://english.www.gov.cn/archive/white_paper/2017/01/11/content_281475539078636.htm )