สองสาวพี่น้องร้องทุกข์ “ปวีณา” พ่อเสียชีวิตปริศนาที่ไต้หวัน ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังพ่อไปทำงานเก็บเศษเหล็กที่โรงงานในเมืองไทเป
เพื่อนพ่อโทรแจ้งว่าพ่อประสบอุบัติเหตุนายจ้างขับรถแม็กโครชนเสียชีวิต ลูกๆไม่มีเงินจึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ประสานกระทรวงการต่างประเทศ ขอคนไทยในไต้หวันช่วยนำศพกลับไทย หรือขออัฐิกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และต้องการให้นายจ้างช่วยรับผิดชอบเพราะพ่อเป็นเสาหลักครอบครัว น้องยังต้องเรียนหนังสือ และแม่ป่วยโรครุมเร้า “ปวีณา” ประสาน นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และมอบหมาย นายเอกภาพ หงสกุล ผู้อำนวยการมูลนิธิปวีณาฯ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กองคุ้มครองฯ กรมการกงสุล ผลสรุปว่ากรมการกงสุลจะประสานสถานทูตไทยในไต้หวันเพื่อส่งอัฐิกลับมาให้เร็วนี้
วันที่ 3 ต.ค.66 เวลา 10.30 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี สองสาวพี่น้องชาวจ.หนองบัวลำภู เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ โดยน.ส.สุพัตรา อายุ 25 ปี พี่สาว พนักงานบัญชีบริษัทแห่งหนึ่ง แจ้งว่า ตั้งแต่ปี 2560 พ่อซึ่งอายุ 49 ปี ได้ไปทำงานที่เมืองไทยเป ประเทศไต้หวัน พยายามเก็บเงินส่งมาเลี้ยงดูครอบครัว ช่วงวิกฤติโควิดพ่อทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน สลับกันไป จากนั้นพ่อจึงได้ย้ายที่ทำงาน เนื่องจากเงินเดือนไม่พอใช้ ต่อมาพ่อได้ทำงานโรงงานคัดแยกเศษเหล็ก รายได้เดือนละ 2-3 หมื่นบาท มีนายจ้างเป็นสองสามีภรรยา
กระทั่งวันที่ 27 ก.ย.66 ได้ทราบข่าวจากคนรู้จักชื่อ “แจ๊ค” ซึ่งโทรมาบอกอา น้องสาวของพ่อว่า พ่อเสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุนายจ้างขับรถชนขณะทำงานเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตำรวจจับนายจ้างไปได้ 1 วันก่อนจะปล่อยตัวกลับมา เมื่อทางบ้านทราบเรื่องจึงทำใจไม่ได้ และสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ที่ผ่านมาไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ อีกทั้งทางครอบครัวไม่มีกำลังทรัพย์ในการนำศพกลับมา หรือหากจะให้เผาศพและนำเถ้ากระดูกกลับมาก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นกัน จึงอยากวอนขอคนไทยในไต้หวันช่วยเหลือนำศพพ่อกลับไทยด้วย
“ที่ผ่านมาพ่อเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งหนูจนเรียนจบได้ทำงาน ขณะที่น้องสาวอายุ19 ปี ยังเรียนไม่จบ และแม่ก็ป่วยมีหลายโรครุมเร้า ครอบครัวยังรับไม่ได้กับการจากไปของพ่ออย่างกะทันหัน ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยหาสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อที่แท้จริงด้วย”หลังรับเรื่องนางปวีณา ได้ประสาน นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และมอบหมาย นายเอกภาพ หงสกุล ผู้อำนวยการมูลนิธิปวีณาฯ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กองคุ้มครองฯ กรมการกงสุล ผลสรุปว่ากรมการกงสุลจะประสานสถานทูตไทยในไต้หวันเพื่อส่งอัฐิกลับมาให้เร็วนี้ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามให้การช่วยเหลือกับกระทรวงการต่างประเทศต่อไป