จีนศึกษา ๓๒๑ อารยธรรมในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ : จีนและโลก
จีนที่จะยังคงเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกภายในปี ๒๐๕๐ (พ.ศ.๒๕๙๓) โดยในการประชุมแลกเปลี่ยนระดับสูงระหว่างประเทศ“เชิงวิชาการ ๒๐๒๒” ในหัวข้อ “อารยธรรมในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ : จีนและโลก” ซึ่งจัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๒๖ ส.ค.๖๕
นายหลี่ เต้าขุย คณบดีสถาบันความคิดและการปฏิบัติทางเศรษฐกิจแห่งประเทศจีนจากมหาวิทยาลัยชิงหัว ได้กล่าวในสุนทรพจน์ในพิธีเปิดว่า ภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มองไม่เห็นในศตวรรษนี้ ภายในปี ๒๐๓๕ (พ.ศ.๒๕๗๘) และ ๒๐๕๐(พ.ศ.๒๕๙๓) จีนจะกลายเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่ที่สุดและเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ เป็นผู้นำระดับโลก ซึ่ง “มองโลกในแง่ค่อนข้างดี” ประมาณการว่าเศรษฐกิจของจีนจะมีสัดส่วน ๓๔% ของเศรษฐกิจโลกในปี ๒๐๕๐ (พ.ศ.๒๕๙๓) โดยจากปี ๒๐๓๕ – ๒๐๕๐ (พ.ศ.๒๕๗๘ – ๒๕๙๓) จีนจะยังคงเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่ที่สุดและเป็นผู้นำของโลกาภิวัตน์เศรษฐกิจใหม่
นายหลี่ เต้าขุย ชี้ให้เห็นว่า ในระยะปัจจุบัน ประเทศจีนไม่เพียงแต่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย โดยชี้ให้เห็นว่าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ “มองโลกในแง่ค่อนข้างดี” อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนสูงกว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกก่อนปี ๒๐๓๕ (พ.ศ.๒๕๗๘) ถึง ๒.๕ จุดและสูงกว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก ๒% จากปี ๒๐๓๕ – ๒๐๕๐(พ.ศ.๒๕๗๘ – ๒๕๙๓) ในช่วง ๒๐ ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี ๒๐๐๒ (พ.ศ.๒๕๔๕) อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของเศรษฐกิจจีนอยู่ที่ ๕% ซึ่งสูงกว่าอัตราของโลก
จากประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และการวิเคราะห์ทางวิชาการของนายหลี่ เต้าขุย พบว่า จีนมีเงื่อนไข ๓ ประการในการเป็นผู้นำของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจใหม่ (๑) ประการแรก ผู้นำของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจใหม่ต้องค่อยๆ ครอบครองความสูงระดับหนึ่งในด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและมีกำลังชี้นำที่แน่นอน (๒) ประการที่สอง ผู้นำของโลกาภิวัตน์เศรษฐกิจใหม่ต้องมีตลาดภายในประเทศขนาดใหญ่ (๓) ประการที่สาม ผู้นำของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจใหม่ต้องมีความสามารถบางอย่างในการกระจายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
นายหลี่ เต้าขุย เน้นย้ำว่า จีนควรทำงานหนักต่อไปใน ๔ ด้าน เพื่อให้ตระหนักถึงความคาดหวังที่จะเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของโลกและเป็นผู้นำของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจใหม่ ได้แก่ (๑) ประการแรก ต้องทำให้กลไกของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตรงไปตรงมา และปลดปล่อยศักยภาพของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มากขึ้น (๒) ประการที่สองคือ การปลดปล่อยศักยภาพการพัฒนาของตลาดรวมในประเทศ (๓) ประการที่สามคือ การทำงานหนักเชิงรุกและปฏิบัติในการแสวงหาความจริงจากข้อเท็จจริง และค่อยๆ นำวิสัยทัศน์ของความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันไปใช้โดยไม่กระทบต่อแรงผลักดันของการเติบโตทางเศรษฐกิจ (๔) ประการสุดท้ายคือ นักวิชาการด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ของจีนควรทำงานร่วมกับนักวิชาการจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อยกระดับความรู้ใหม่และแนวความคิดทางวิชาการใหม่ที่มีความสำคัญระดับสากลในกระบวนการของความทันสมัยระดับโลกจากการปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จของจีนและประเทศอื่น ๆ
สำหรับการประชุมฯ ในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยสภาสังคมศาสตร์จีน ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีนักวิชาการจากจีนและอีก ๑๕ ประเทศจำนวนกว่า ๑๐๐ คนเข้าร่วม
ประมวลโดย พลโท ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://finance.sina.cn/2022-08-27/detail-imizmscv8005699.d.html?from=wap )