หอการค้าสงขลาประเมิน 1 กรกฎาคม 2565 ปลดล๊อคเต็มรูปแบบ ยกเลิก ไทยแลนด์พาส
จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
หอการค้าสงขลาประเมิน 1 กรกฎาคม 2565 ปลดล๊อคเต็มรูปแบบ ยกเลิก ไทยแลนด์พาส จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในปลายปี แนะสร้างแลนด์มาร์คใหม่โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่แล้ว อาทิ เมืองเก่าสงขลาหลวงปู่ทวดวัดพะโคะ เขากลางเมืองอย่างเขาคอหงส์ เป็นจุดขายที่ไม่ต้องลงทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศทางการท่องเที่ยวในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คึกคักมาขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้องค์กรภาครัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยว ได้เร่งรัดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกสุดสัปดาห์ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน 2565
โดยนายธนวัฒน์ พูนศิลป์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ระบุว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในอำเภอหาดใหญ่ นั้น มีหลากหลายกิจกรรม จากหลายองค์กร ที่จะจัดต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน เพื่อเป็นกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยประเมินว่าตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ซึ่งจะปลดล๊อคเต็มรูปแบบ ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส จะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้น และจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนจะมีโควิด 19 ได้ในช่วงปลายปีนี้
“การที่ปลดล๊อคแล้ว จะให้ดีขึ้นทันทีเลยคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการท่องเที่ยวเราชะงักไปนานกว่า 2 ปีจากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด -19 เปรียบเสมือน คนป่วยที่นอนอยู่ในห้องไอซียู เมื่ออาการดีขึ้น จะให้ลุกขึ้นมาวิ่งเลยทันทีคงเป็นไปไม่ได้ต้องค่อยเป็นค่อยไป การท่องเที่ยวเราก็เช่นเดียวกัน ส่วนในระยะยาวนั้นคงจะต้องเร่งหาแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสกายวอล์ค หรือ สิ่งก่อสร้างต่างๆ แต่อาจจะปรับเสริมทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น เมืองเก่าสงขลา ทะเลสาบสงขลา หลวงปู่ทวดวัดพะโคะหรือแม้แต่เขากลางเมืองอย่างเขาคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ เป็นต้น นอกจากนั้นก็เป็นการพัฒนาทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา นิคมอุตสาหกรรมยางพารา ดิวตี้ฟรีโซนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ที่จะต้องมีการขับเคลื่อนต่อเนื่องภายใต้การยอมรับของชุมชน” นายธนวัฒน์ กล่าว