โคราชจัดพิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
ที่วัดวชิราลงกรณวรารามวรวิหาร หมู่ที่ 1 ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พระคุณเจ้าพระวินัย โมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา(ธ.) เจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณวรารามวรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส เป็นประธานในการประกอบพิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยพลตรีสมบัติ จินดาศรี รองแม่ทัพภาคที่ 2 หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนครราชสีมาหัวหน้าส่วนราชการอำเภอปากช่อง กาชาดอำเภอปากช่อง คหบดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองน้ำแดง กำนันตำบลหนองน้ำแดง ผู้นำท้องถิ่นและท้องที่ เครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน เครือข่าย OTOP องค์กรสตรี ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ผู้นำชุมชน พัฒนาการอำเภอ 32 อำเภอเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน และประชาชนชาวอำเภอปากช่อง
นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงานว่า ในปี พ.ศ.2522 ซึ่งเป็นปีเด็กสากล กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินการจัดตั้งกองทุนพัฒนาเด็กชนบทขึ้นในส่วนกลาง และทุกจังหวัดในส่วนภูมิภาค เพื่อเป็นกองทุนในการให้ความช่วยเหลือสนับสนุน และพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนอายุตั้งแต่แรกเกิดถึงหกปี ที่ครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส ให้ได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาและเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2536 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับกองทุนพัฒนาเด็กชนบทไว้ในพระราชูปถัมภ์
“จังหวัดนครราชสีมา โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการทอดผ้าป่าหารายได้สมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ จังหวัดนครราชสีมา เป็นประจำทุกปี ปัจจุบันมีเงินทุนจำนวนทั้งสิ้น 5,500,138.95 บาท โดยเก็บรักษาในรูปตั๋วสัญญาใช้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชน และเป็นเงินฝากอยู่ในบัญชีธนาคารออมสิน สาขานครราชสีมา ธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา การใช้จ่ายเงินกองทุนมีคณะกรรมการระดับจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน และพัฒนาการจังหวัดนครราชสีมาเป็นเลขานุการ และในปี 2565 กองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ จังหวัดนครราชสีมา ได้นำเงินไปช่วยเหลือเด็กแรกเกิดถึง 6 ปีในชนบท ที่ครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส ซึ่งได้มอบทุนอุปการะในกิจกรรมจังหวัดเคลื่อนที่ จำนวน 200 ทุน ๆ ละ 3,000 บาท เป็นเงิน 600,000 บาท”
นอกจากนั้น ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมจัดทำโรงทานอาหาร และเครื่องดื่ม มาให้บริการแก่ผู้ร่วมงาน จำนวน 16 ร้านค้า
ทั้งนี้ มียอดบริจาคสมทบทุนฯจากส่วนราชการ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ กลุ่มองค์กร และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วม จากทั้ง 32 อำเภอ จำนวนเงิน 802,158 บาท (แปดแสนสองพันหนึ่งร้อยห้าสิบแปดบาทถ้วน) และร่วมบริจาคสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ ส่วนกลาง จำนวน50,000 บาท