ภูมิภาค

ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานพิธีตัดปอยผมนาคเพื่ออุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2565

ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานพิธีตัดปอยผมนาคเพื่ออุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2565 พร้อมเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทำความดีด้วยการปฏิบัติบูชาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

           วันนี้ (26 มี.. 65) เวลา 09.30 . ที่มูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยถนนตลิ่งชันสุพรรณบุรี ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีตัดปอยผมนาคเพื่ออุปสมบทเฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ และเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2565 โดยมี พระครูปลัดสุชาติ ฐานจาโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร ประธานกรรมการมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เป็นประธานสงฆ์ โอกาสนี้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นางกุสุมาล พงษ์สิทธิถาวร อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นางรัฐยา อาจหาญ เผยพร นายอำเภอบางบัวทอง ผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการภาคีเครือข่าย ผู้เข้ารับการอุปสมบทฯ 167 คน และพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศ ร่วมในพิธี

      นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย และจุดเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร เปิดกรวยถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวรรองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง เปิดกรวยถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายโสภณสุวรรณรัตน์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เปิดกรวยถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดกรวยถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้น พระสงฆ์ให้ศีล จบแล้วปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ทอดผ้าไตรบังสุกุล พระสงฆ์อนุโมทนา กรวดน้ำ รับพร เสร็จแล้ว ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ประกอบพิธีตัดผมปอยนาค ผู้เข้ารับการอุปสมบทฯ 167 คน เป็นอันเสร็จพิธี

      นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้รับการประสานงานจากมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ในการจัดพิธีอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ และเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2565 และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ พระพุทธศาสนาพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ โดยมี พระครูปลัดสุชาติ ฐานจาโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร และประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 1 เมษายน 2565 โดยในวันพรุ่งนี้(26 มีนาคม 2565) จะเป็นพิธีมอบผ้าไตรพระราชทานเพื่ออุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ต่อไป

      นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจะทรงเจริญพระชนมายุครบ 67 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2565 นี้ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนรวมถึงพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันทำความดีด้วยการปฏิบัติบูชา โดยน้อมนำพระราชดำริของพระองค์ท่าน ในการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ตามโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเองด้วยการใช้พื้นที่ภายในบ้านเรือนของเราปลูกผักสวนครัว ปลูกพืชสมุนไพรซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวเราและสมาชิกในครอบครัวมีอาหารที่สะอาด ปลอดภัย มีหยูกยารักษาโรคจากสมุนไพรแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินค่าพืชผักซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนในการซื้อหามาใช้ประกอบอาหารถึงวันละ 50 บาท โดยหากพวกเราครัวเรือนชาวไทย 12.6 ล้านครัวเรือนร่วมกันปลูกผักสวนครัวภายในบ้าน เมื่อคิดเป็นทั้งประเทศจะประหยัดเงินได้ 630 ล้านบาทต่อวัน 18,900 ล้านบาทต่อเดือน และคิดเป็น 229,950 ล้านบาทต่อปี ทั้งยังทำให้เกิดต้นไม้เพิ่มขึ้นส่งผลให้เป็นส่วนหนึ่งในการลดภาวะโลกร้อน บ้านมีความร่มเย็นอีกด้วย

ขอบคุณ ภาพ/ข่าว กองสารนิเทศ สป.มท.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า