ปัญหาที่ดินไทยจะเดินหน้าไปต่อได้อย่างไร (2)
“พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง” เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า รัฐต้องนำที่ดินและพื้นที่ป่าที่ให้บริษัทเอกชนเช่าทำประโยชน์ ไร่ละประมาณ 50 สตางค์ต่อปี กลับคืนมาเพื่อการปฏิรูปและต้องแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดินให้ชุมชนท้องถิ่นร่วมตรวจสอบในการออกเอกสารสิทธิ
ประเด็นที่สำคัญที่ได้นำเสนอในการเสวนาใน หัวข้อ งานปฏิรูปที่ดินเอกชนทิ้งร้าง สร้างประชาธิปไตยและความเป็นธรรม วันที่ 24 สิงหาคม 2562 ณ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
ได้แก่ สิทธิในการถือครอง ทำประโยชน์ ในที่ดินของประเทศไทย ยังขาดความเป็นธรรม กล่าวคือ ที่ดินจำนวนมาก รัฐโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ อนุญาตให้บริษัทเอกชนเช่าที่ดินของรัฐ โดยคิดค่าเช่าในอัตราที่ต่ำมาก ในขณะที่เกษตรกรจำนวนมากตกเป็นผู้ไร้ที่ดินทำกินและต้องการความช่วยเหลือจากรัฐ เช่น ข้อร้องเรียนของ ราษฎรชุมชนสันติพัฒนา บ้านบางสวรรค์ อำเภอพระแสง ราษฎรชุมชนบ้านน้ำแดง ชุมชนคลองไทรพัฒนา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับ การที่รัฐ อนุญาตให้ บริษัทไทยอุตสาหกรรม น้ำมันและสวนปาล์ม จำกัดเช่าที่ดินขนาดใหญ่ กินเนื้อที่มากถึง 8,250 ไร่ ระยะเวลาการเช่านาน 30 ปี โดยเริ่มเช่าในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2536 สัญญา และจะสิ้นสุดการเช่าเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2566 เป็นที่น่าสังเกตว่ามีค่าเพียงเช่าไร่ละ 50 สตางค์ต่อปี หรือไร่ละ 15 บาทต่อ 30 ปี หรือ 123,750 บาทต่อที่ดิน 8,250 ไร่ ต่อ 30 ปี เท่านั้น
ปัจจุบันบริษัทไทยอุตสาหกรรมน้ำมันและสวนปาล์ม จำกัด ซึ่งต่อมาได้ควบรวมกับบริษัทซึ่งได้รับสัมปทานเช่นกัน โดยรวมเป็นบริษัทมหาชน อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบัน (ขอไม่เปิดเผยชื่อ) ในขณะที่เกษตรกรในพื้นที่ต้องการที่ดินทำกิน และไร้ที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก ทั้งที่ที่ดินดังกล่าวเป็นสมบัติของชาติต้องเป็นสมบัติของประชาชน