สภากลาโหมเห็นชอบตามที่ ทอ.เสนอปรับปรุงโครงสร้างการจัดกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ (คปอ.) ป็นกองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ
พลอากาศตรีประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยถึงรายละเอียดการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยกำลังรบของกองทัพอากาศ
จากกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ (คปอ.) ยกระดับขึ้นเป็น “กองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ” ซึ่งที่ประชุมสภากลาโหมมีมติเห็นชอบตามที่กองทัพอากาศเสนอ ในการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565
โดยกองทัพอากาศ ได้วางแผน และดำเนินการใน 2 ส่วนสำคัญ คือ 1. ปรับแก้ไขชื่อ และภารกิจของหน่วย
2. ปรับปรุงโครงสร้างการจัดกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงการจัดส่วนราชการกลาโหม เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบในการดำเนินการ และนำมาสู่การอนุมัติหลักการโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ให้กองทัพอากาศแก้ไขพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ ในการปรับกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศเป็น
กองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศและปรับปรุงโครงสร้างการจัดในลักษณะคู่ขนานนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมสภากลาโหม
ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้ปรับปรุงโครงสร้างการจัดกองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศให้ครอบคลุมมิติทางอากาศ ทางอวกาศและทางไซเบอร์ ถือเป็น Multi-Domain Organization เบื้องต้นและเริ่มทดลองใช้งาน (เพื่อพลาง) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 โดยใช้หลักการปรับเกลี่ยอัตราและจัดกลุ่มงานใหม่ของหน่วยงานที่มีความจำเป็นลดน้อยลง และเพิ่มให้กับหน่วยงานที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถ ซึ่งการปรับโอนอัตรากำลังพลดังกล่าวไม่ทำให้งบประมาณรายจ่ายกำลังพลภาครัฐทุกประเภทเพิ่มขึ้น การปรับโครงสร้างการจัดในครั้งนี้จะส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มขีดความสามารถการบัญชาการและควบคุมให้ควบคุมการปฏิบัติการทั้ง 3 มิติสามารถรองรับการปฏิบัติการของอากาศยานรบยุคที่ 5 ที่วางแผนจะจัดหาในอนาคตทั้งยังส่งผลดีต่อการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเหล่าทัพและกองทัพไทยตอบสนองต่อภารกิจตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมตลอดจนจะใช้เป็นหน่วยนำร่องต้นแบบก่อนที่จะขยายผลไปยังหน่วยงานอื่นของกองทัพอากาศต่อไป
อนึ่ง กองทัพอากาศได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหน่วยงานให้มีความกระชับ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นกองทัพอากาศคุณภาพในอนาคตโดยใช้แนวทางมุ่งประโยชน์สูงสุดในการใช้งานกำลังพลด้วยการนำกำลังพลที่มีภาระงานน้อยมาปฏิบัติงานให้เหมาะสมเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรบุคคลเกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานกองทัพอากาศเหล่าทัพและกองทัพไทยตามนโยบายกระทรวงกลาโหม