หนุ่มโดนหลอกให้ลงทุนปลูกเห็ดหอมสดพอส่งสินค้าแล้วไม่ได้เงินสูญกว่า1ล้าน
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายวัฒกร เมืองโคตร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210/1 หมู่ 4 ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ว่าได้ร่วมลงทุนกับ หจก.แห่งหนึ่งส่งออก แปรรูป ผลิตและจำหน่ายก้อนเชื้อเห็ด ขายเห็ดสด เห็ดอบแห้ง เห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดนางฟ้า เห็ดโคนน้อย และเห็ดหูหนู ในนามเฮียเต่า ทำสัญญาปลูกเห็ดหอม แล้วส่งผลผลิตให้กับบริษัทโดยมีประกันราคาผลผลิต และได้ส่งเห็ดหอมให้กับทางบริษัทเดือนละ 300 – 500 กก. ราคา 180 บาท/กก.ช่วงแรก ๆ ได้เงินตามจำนวนเห็ดหอมสดที่ส่ง แต่มาช่วงหลังตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2565 ไม่ได้รับเงิน จนต้องหยุดส่งสินค้าให้กับทางบริษัท ได้รับความเสียหายมูลค่ากว่าล้านบาท
นายวัฒกร เปิดเผยว่า เริ่มแรกมีลงในเฟซบุ๊กว่ามีการปลูกเห็ดหอม มีฟาร์มแม่อยู่ที่สกลนคร ไม่ไกลจากบ้านมาก ตั้งใจจะลาออกจากงานอยู่แล้ว ก็เลยไปดูที่สกลนคร ไปรอบแรกก็มาคุยกับแฟนและครอบครัว ว่าน่าลงทุนอยู่ รายได้น่าสนใจ ก็เลยไปดูรอบ 2 เพื่อความแน่ใจ และอาทิตย์ต่อมาไปดูเป็นรอบที่ 3 ไป 3 รอบเพื่อความแน่ใจและตัดสินใจทำสัญญา
ผู้เสียหายเปิดเผยอีกว่า เริ่มแรกทำโรงเรือน 10,000 ก้อนเห็ด ประมาณ 760,000 บาท ต่อมามาดูมีพื้นที่ยังเหลือในกลุ่มเขามีรายได้จริง ๆได้ดีมากทุกเดือน ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนจาก 10,000 ก้อน เป็นโรงเรือน 20,000 ก้อนเห็ด เฉพาะค่าโรงเรือนเพิ่มไปอีก 240,000 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายเทพื้น เดินไฟฟ้า 3 เฟส รวมทั้งหมดประมาณ1,200,000 บาท ส่วนด้านในโรงเรือนมีแอร์ 100,000 บีทียู มีเครื่องพ่นหมอกควบคุมอุณหภูมิ ควบคุมความชื้น ส่วนค่าไฟฟ้าประมาณ เดือนละ 10,000 – 14,000 บาท โดยเซ็นสัญญาเดือน พฤษภาคม 2564 หลังจากนั้นอีก 4 เดือนถึงจะได้โรงเรือนมาได้เห็นจริง ๆ เดือนตุลาคม พอได้เห็ดมาก็เป็นก้อนอ่อน คือในสัญญาระบุว่าก้อนเห็ดต้องมีอายุ 120 วัน หรือ 4 เดือน ถึงจะส่งมาได้ แต่พอมาดูข้างก้อนระบุวันที่บ่ม ได้ก้อนเห็ดมา 2 เดือน ต้องมาบ่มอีก 2 เดือน เห็ดถึงจะออกดอก โดยทางบริษัทการันตีว่าเห็ด10,000 ก้อน จะได้เห็ดสดประมาณ 4,000 – 6,000 กก. แต่พอมาจริง ๆ แล้วเดือนแรกได้ 200 กก. เดือนที่ 2 ได้ 400 กก. มากที่สุดที่เก็บได้ 600 กก. ในแต่ละเดือนพอได้เห็ดสดก็ส่งให้กับทางบริษัท โดยส่งทุก ๆ 3 วัน ที่สกลนคร พอถึงวันที่ 28 ของทุกเดือนเขาก็โอนเงินมาให้เรา และโอนมาให้ทุกเดือน จนก้อนเห็ดโละทิ้งก็ขอเคลมก้อนประมาณ 2 เดือนก็ได้ก้อนเห็ดมา ก็ได้ก้อนอ่อนมาเหมือนเดิม ก็มาบ่มและเก็บเห็ดส่งมาเรื่อย ๆ จนถึงเดือนกรกฏาคม 2565 ส่งเห็ดหอมไปแล้วไม่ได้เงิน ก็ไปตามที่สกลนครถึง 3 ครั้ง ก็ไม่ได้เงิน ก็เลยเอาเห็ดที่ส่งกลับคืนมากลายเป็นเห็ดแห้งไปแล้ว ก็เลยไปขายตลาดนัด สู้เห็ดหอมจีนไม่ได้ ซึ่งราคาถูกกว่าของเรา เห็ดหอมสดราคา 180 บาท/กก. เห็ดแห้ง 700 บาท/กก. ถ้าเราส่งเห็ดหอมสดคุ้มกว่า แต่ถ้าเอาเห็ดหอมสดไปทำเห็ดหอมแห้งใช้เห็ดประมาณ 7 – 10 กก. ถึงจะได้เห็ดหอมแห้ง 1 กก. ช่วงที่ผ่านมาพอมีปัญหาไม่รู้จะทำอย่างไร เห็ดก็เน่าทิ้ง ทิ้งไปประมาณ 300-400 กก. ขายก็ไม่ทัน ขายไม่หมด จะตากก็ไม่มีแดด ได้ทิ้งเห็ดไปทั้งหมด ถ้าทำโรงอบก็ไม่ได้ลงทุนเพิ่มอีกเป็นแสนบาท
“ถ้าเป็นไปได้อยากให้หน่วยงานของรัฐ ช่วยหาตลาด หาแหล่งเรียนรู้ หาโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ อยากให้เข้ามาช่วยเหลือ หรือให้คำปรึกษา จะสู้ต่อไปหรือเปลี่ยนไปปลูกเห็ดอย่างอื่นแทน และอยากให้มาแนะนำ ส่วนจังหวัดโซนภาคอีสานที่ปลูกเห็ดหอมแล้วโดนชะตากรรมเดียวกัน อาทิ จังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร อุบลราชธานี สุรินทร์และนครราชสีมา ถ้าเป็นกลุ่มใหญ่มีทั่วประเทศ อยากให้ผู้ใหญ่ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ช่วยตามตัวบริษัทมาให้ได้ ให้มารับผิดชอบตรงจุดนี้ มันสร้างความเสียหายเงินเก็บมาทั้งชีวิตมาลงทุนล้านกว่าบาท ซึ่งหวังกับตรงนี้สูงเหมือนกัน อยากให้ติดตามตัวมารับผิดชอบต่อไป“นายวัฒกร กล่าว
สำหรับพื้นที่โรงเรือนเห็ดหอมขนาด 20 คูณ 6 เมตร ข้างในมีเครื่องปรับอากาศขนาด120,000 บีทียู ปรับอุณหภูมิต่ำสุด 9 องศา สูงสุด 28 องศา โดยอุณหภูมิ 21 – 24 องศา เห็ดหอมสามารถออกดอกได้ดีเครื่องปรับอากาศเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีเครื่องพ่นหมอก ควบคุมความชื้น และควบคุมอุณหภูมิ ส่วนเห็ดหอมเก็บเวลาเช้า และเวลาเย็น ถ้าเก็บช้าดอกก็จะบาน ดอกเห็ดสูงประมาณ 3-4 เซนติเมตร
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ / รายงาน