ปวีณา” รับหญิงสาวที่ถูกหลอกบังคับค้าประเวณี
ที่เมืองป็อก เมื่องหนึ่งได้เดินทางกลับมาเมืองไทยอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาอย่างปลอดภัย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ ทหาร ตำรวจเมียนมา ผู้บังคับการจว.เชียงราย ผู้บังคับการตม.จว.เชียงราย ผู้กำกับการ สภ.แม่สาย ผู้กำกับการ ตม.แม่สาย พมจ.จว.เชียงราย หน.บ้านพักจังหวัดเชียงราย ได้ทำการคัดแยกเหยื่อเบื้องต้น แล้ว คาดว่าเข้าข่ายค้ามนุษย์ โดยวันจันทร์มูลนิธิจะพาไปตรวจร่างกายที่รพ.ตำรวจ วันอังคารที่14 พ.ย.66 เวลา10:00น.นางปวีณาจะพาเหยื่อ ทั้ง3คนเข้าพบพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์หักพาล รองผบ.ตร.เพื่อนำส่ง ป.ค.ม. ขยายผลเร่งรัดดำเนินคดีกับผู้เป็นธุระจัดหา และนางปวีณา ได้ขอให้สื่อมวลชน ได้ปชส.ให้คนไทยได้รับรู้ อย่าหลงเชื่อคนง่ายด้วยเฉพาะในsocial เพราะจะไม่มีงานสบายได้เงินง่ายๆแลยังถูกหลอกถูกเป็นหนี้ แทบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนตกนรกทั้งเป็น
จ.เชียงราย “ปวีณา” พาแม่รับลูกสาวกับเพื่อนรวม 3 คน หลังช่วยพ้นขุมนรกค้าประเวณีที่เมียนมา โดยปวีณา ประสาน อธิบดีกรมการกงสุล และสถานทูตไทยในเมียนมาให้การช่วยเหลือ แต่ระหว่างรอส่งตัวกลับที่เมืองป๊อก 3 สาวรอไม่ไหวหนีออกมาถูกรถรับจ้างจับตัวไปขังที่กระท่อมปลายนา 5 วันซ้อมทำร้าย จะใช้มีดดาบฟันคอ เรียกค่าไถ่ตัว 5 ล้านบาท พอมีโอกาสจึงหนีเข้าป่าและมีพลเมืองดีช่วยพาเข้าแจ้งตร. ก่อนจะถูกตร.เมียนมาดำเนินคดีข้อหา หลบหนีเข้าเมือง ถูกคุมขังอยู่ 4 เดือนครึ่ง เพื่อรอศาลตัดสิน เพิ่งได้กลับบ้านวันนี้เข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์0
วันที่ 9 พ.ย. เวลา 14.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปสภ.แม่สาย จ.เชียงราย พาแม่สาวไทยไปรับลูกสาวที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนอีก 2 คน รวมทั้งหมด 3 คน อายุ 22 ปี 35 ปี และ41 ปี ที่ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ
สืบเนื่องจากช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา แจ้งว่า น.ส.ใหม่(นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 22 ปี หลงเชื่อโฆษณาในติ๊กต็อก ชักชวนไปเที่ยวที่เชียงตุงประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 18 พ.ค.66 แต่เมื่อเดินทางไปกลับถูกส่งไปที่เมืองป็อก ถูกยึดพาสปอร์ต และเอกสารต่างๆ ให้เซ็นเอกสารรับสภาพหนี้ 35 ,000 หยวน เป็นเงินไทยประมาณ 2 แสนบาท ส่งขายพ่อเลี้ยงชาวจีนที่เมืองหนึ่ง เป็นสาขาเดียวกับเมืองป็อก บังคับให้เสพยาและถูกบังคับให้ค้าประเวณีทันที ถ้าไม่ทำก็จะถูกซ้อมทำร้าย โดยก่อนเดินทางไปแม่ไม่รู้มาก่อน ลูกเพิ่งติดต่อมาทางแม่แจ้งขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ
นอกจากนี้ญาติของหญิงสาวอีก 2 คน อายุ 35 ปีและ 41 ปี ที่เป็นพนักงานบัญชี และเป็นเพื่อนกันได้ถูกเพื่อนหลอก โดยชวนไปท่องเที่ยวเชียงตุง แต่กลับถูกหลอกไปขายที่เมืองป็อก พี่สาวและน้องสาวก็ได้เดินทางร้องขอความช่วยเหลือมายังปวีณา แจ้งว่า 2 สาวถูกเพื่อนหลอกชักชวนไปเที่ยวเชียงตุงในช่วงลางานพักร้อน แต่เมื่อไปถึงกลับถูกส่งตัวไปที่เมืองป๊อก บังคับให้ค้าประเวณี จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล สถานทูตไทยในเมียนมา และตำรวจเมียนมาได้บุกเข้าไปให้การช่วยเหลือหญิงสาว 2 คนที่เมืองป๊อก และไปช่วยเหลือน.ส.ใหม่ ที่เมืองหนึ่ง ก่อนจะส่งตัวทั้ง 3 คน มารอส่งกลับที่เมืองป๊อก โดยตำรวจ ได้ให้ทั้ง 3 คนอยู่บ้านพักสถานีตำรวจก่อนเพื่อความปลอดภัย และรอการประสานงานของเจ้าหน้าที่ไทย เมียนมาซึ่งใช้เวลานาน แต่หญิงสาว 3 คน กลัวทางร้านจะมาเอาตัวกลับไปจึงตัดสินใจพากันจ้าง รถจักรยานยนต์ 4 คันเพื่อที่จะให้มาส่งที่ท่าขี้เหล็กและข้ามฝั่งมาไทย แต่รถรับจ้างกลับพาไปเมืองแพรก จับตัวหญิงสาวทั้ง 3 คนไปขังที่กระท่อมปลายนาเรียกค่าไถ่ 3 คน รวม 5 ล้านบาท และซ้อมทำร้ายตบตี เตะเสยคางจะใช้มีดแทงคอ จึงต้องทำแกล้งตายเพื่อให้หยุดทำร้ายกังขงอยู่ 5 วัน พอมีโอกาสทั้ง 3 คนก็ได้หลบหนีเข้าป่าไปขอความช่วยเหลือจากครูบนดอยพูดภาษาอังกฤษได้จึงพาหญิงสาวทั้ง 3 คน เข้าไปพบตำรวจ แต่ว่าทั้ง 3 คนไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรเลยตำรวจจึงต้องให้อยู่ในคุกเมืองแพรก ทั้ง 3 คนได้ติดต่อญาติให้ติดต่อมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลืออีกครั้ง มูลนิธิปวีณาฯ ประสานสถานทูตให้เข้าช่วยเหลือ แต่ทั้ง 3 คนเข้ามเมืองผิดกฎหมาย จึงถูกขังไว้ก่อน 4 เดือนครึ่ง และได้ส่งกลับไทย วันที่ 9 พ.ย. 66 โดย พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภา ผกก.ตม.แม่สาย ได้แจ้งมูลนิธิปวีณาฯ ให้ไปรับตัวหญิงสาวทั้ง 3 คน ที่ด่านแม่สาย
แม่น.ส.ใหม่ ไม่มีเงินที่จะเสียค่าปรับ 4,000 บาทให้กับลูก ทางมูลนิธิปวีณาฯ จึงให้การช่วยเหลือส่งเงินไปให้ ระหว่างถูกดำเนินคดีและรอศาลตัดสินทั้ง 3 สาว ต้องถูกคุมขังเป็นเวลานานถึง 4 เดือนครึ่ง ก่อนจะได้รับการส่งตัวกลับไทย
วันที่ 9 พ.ย.66 นางปวีณา ได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาผกก.ตม.เชียงราย ว่ามีหญิงสาว 3 ราย ที่มูลนิธิปวีณาฯ ให้การช่วยเหลือจะเดินทางกลับจึงพาแม่เดินทางมารับลูกและเพื่อนรวม 3 คน ที่สภ.แม่สาย โดยมี พ.ต.อ.พิพัฒน์นาระเดช ผกก. สภ.แม่สาย มอบหมาย พ.ต.ท.นเรศ โปเล็ม สว.สอบสวน นายโสภณแก้วล้อมเพชร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวปฏิญญา คงอาวุธหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย ร่วมกันสอบปากคำทั้ง 3 คน เพื่อคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์
นางปวีณา กล่าวว่า จากนี้ทั้ง 3 คนจะเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อหากเข้าข่ายค้ามนุษย์จะได้รับเงินเยียวยา โดยระหว่างนี้ทั้ง 3 คนจะอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯและนางปวีณา จะประสาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อพาทั้ง 3 คนไปพบและไป พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมขบวนการค้ามนุษย์มาดำเนินคดี โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีและกระบวนการยุติธรรมอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ขอฝากเตือนคนไทยที่คิดจะไปทำงานในต่างประเทศ หรือหากถูกชักชวนไปเที่ยวก็ตาม ขอให้ตรวจสอบข้อมูลจากราชการให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงานกระทรวงการต่างประเทศ หรือ มูลนิธิปวีณาฯ ก็ได้ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ หากหลงเชื่อเดินทางไปอาจถูกกักขัง ซ้อมทำร้าย บังคับทำงานผิดกฎหมาย และบังคับค้าประเวณี บางคนถึงกับเอาชีวิตไม่รอดก็มี ซึ่งในบางพื้นที่ของต่างประเทศยากแก่การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่อาจจะช่วยเหลือไม่ได้ทุกคน.