ทำร้ายร่างกายทุบตี มาตลอด 2 ปี
น้องสาว ร้อง ปวีณา พี่สาวอายุ 30 ปี ถูกสามีทหารยศสิบตรี สังกัดกองบัญชาการหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ทำร้ายร่างกายทุบตี มาตลอด 2 ปี ล่าสุดเมื่อเย็นวันที่ 26 ต.ค. 66 พี่สาวไปหาหมอก็ตามไปคุกคามไม่ยอมให้พี่สาวรักษาตัว ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย ปวีณาประสาน ผกก.สน.บางเขน แจ้งความดำเนินคดีและประสานผู้บังคับบัญชานายเอ้ นำตัวไปขังที่กรมทหารต้นสังกัดแล้ว
รายละเอียดจากผู้เสียหาย
นางบี (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เล่าว่าตนถูกนายนายเอ้ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ยศสิบตรี จดทะเบียนสมรสกัน ถูกทำร้ายทุบตีตลอดระยะเวลา 2 ปี ใช้ความรุนแรง เตะ ต่อยทำร้ายร่างกาย โดยไม่มีสาเหตุ ช่วงหลังนายเอ้มีพฤติกรรมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จะใช้อาวุธมีดเข้ามาทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง แต่แม่ของนายเอ้เข้ามาห้าม ล่าสุดเย็นวันที่ 26 ต.ค. 66 ตนกับนายเอ้มีปากเสียงกันในขณะที่ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน นายเอ้โมโหใช้มือทุบที่หน้าขา 2 ครั้ง และใช้ศอกกระแทกเข้าที่หน้าข้างขวา จนปากแตกและใบหน้าบวมช้ำ นายเอ้จะง้างมือตบตนอีกครั้ง ทำให้รถมอเตอร์ไซค์เสียหลักล้ม ตนได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกายและศรีษะฟาดพื้นอย่างแรง พอกลับถึงบ้านตนกับนายเอ้ก็มีปากเสียงกันอีก นายเอ้เอามีดยาวที่ใช้ตัดหญ้าจะเข้ามาทำร้ายตน แต่แม่นายเอ้เข้ามาห้ามก่อน ตนจึงโทรหาน้องสาวให้พาไปตรวจร่างกายที่ รพ.แห่งหนึ่งย่านบางเขน นายเอ้ก็ตามไปอาละวาดที่รพ. จะเอาตนกลับไปคุยกันที่บ้าน ไม่ยอมให้พบแพทย์ และไล่ให้น้องสาวของตนกลับไปทำงาน แต่น้องสาวไม่ยอมกลับ นายเอ้จึงพูดขึ้นว่า “ได้ถ้าคำพูดของกูไม่มีความหมาย ไม่มีใครฟังเดี๋ยวเจอกัน” ตนคิดว่าเหตุการณ์ต้องรุนแรงกว่านี้ จึงให้น้องสาวโทรหาตำรวจ และหน่วยงานที่ช่วยเหลือเร็วที่สุด น้องสาวจึงได้โทรแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือ
หลังนางปวีณา รับเรื่อง ได้ประสาน พ.ต.อ.อนันต์ วรศาสตร์ ผกก.สน.บางเขน ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน แต่นายเอ้ตามมาอาละวาดโวยวายที่โรงพักไม่ยอมให้ตนแจ้งความ และกลับไปคุยกันที่บ้าน แต่ตนไม่ยอมกลับเพราะถ้ากลับไปก็ต้องจบด้วยการทำร้ายร่างกายเหมือนเดิม นายเอ้นั่งเฝ้าไม่ยอมกลับ นางปวีณาจึงได้เดินทางมาที่ สน.บางเขน และประสานผู้บังคับบัญชา ต้นสังกัดของนายเอ้ (นามสมมติ) โดยผู้บังคับบัญชา เดินทางมารับตัวนายเอ้ที่สน.บางเขน ไปขังที่ค่ายต้นสังกัดเป็นเวลา 15 วัน และตั้งคณะกรรมการสอบสวน ในขณะเดียวกันตำรวจก็จะดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม โดยผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีนายเอ้ดังนี้ 1.ทำร้ายร่างกาย 2.ทำอนาจารลูกสาวคนโต อายุ 12 ปี
นางปวีณา ได้ประสาน น.ส.กุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว กทม.ให้นางบีและลูกสาวเข้ารับการคุ้มครองที่บ้านพักเด็กฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นการชั่วคราว และอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ร่วมกัน
นางปวีณา กล่าวว่า เช้าวันนี้ 27 ต.ค. 66 ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พานางบีและลูกสาวไปตรวจร่างกาย ที่รพ.ตำรวจ เย็นวันนี้ นางปวีณา ได้นัดกับผู้บังคับบัญชาของสิบตรีเอ้ (นามสมมติ) เพื่อให้นางบีได้เก็บของออกจากบ้านพักและมีความประสงค์ต้องการหย่าขาดกับสิบตรีเอ้ มูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายไปเยียวยาสภาพจิตใจที่ รพ. ตำรวจ และประสานกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอรับเงินเยียวยาผู้เสียหายทางด้านคดีอาญาต่อไป