“แม่น้องอาย”เข้ารับเงิน จาก พ.ร.บ.รถแล้ว พร้อมเตรียมเจรจาร่วมคู่กรณีวันศุกร์นี้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ส.ค.2565 ที่ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำกัด สาขาขอนแก่น ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นางนิตยา รุ่งสถิตแม่ของน.ส.อรุณนภา วัฒนพานิช หรือน้องอาย อายุ 19 ปี นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์รถบัสของคณะพยาบาลศาสตร์ มข.เฉี่ยวชนชนจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณสามแยกคณะเภสัชศาสตร์มข.เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางมารับสินไหมทดแทน จาก พ.ร.บ.ของรถคันที่ก่อเหตุ เพื่อเป็นค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีนางพานทิทย์ บุญศรี ผอ.สนง.คปภ.จังหวัดขอนแก่น และ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เป็นผู้แทนมอบเช็คเงินสดเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท
นางนิตยา รุ่งสถิต อายุ 55 ปี แม่น้องอาย กล่าวว่า วันนี้นัดมารับเช็ค ในส่วนของพ.ร.บ.รถคันที่ก่อเหตุเพื่อเป็นค่าปลงศพให้กับน้องอาย และขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับผู้ที่ก่อเหตุ หรือต้นสังกัดของคนขับ คือคณะพยาบาลศาสตร์ แต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้ยังต้องจัดการพิธีการต่างๆของน้องอายให้เสร็จสิ้นก่อนและเมื่อวานได้ลอยอังคารเถ้ากระดูกเรียบร้อยแล้ว
“ต่อไปเราจะเดินหน้าในสิ่งที่เราควรจะไปรับการเยียวยา โดยเฉพาะกับการอยากให้ทางต้นสังกัด คือ มข. และคณะพยาบาลศาสตร์ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการทำ 2 ส่วน ส่วนแรกคือหน้าที่ที่ต้องทำแก้ไขปัญหาในมหาวิทยาลัยว่าต้องแก้ปัญหาแบบไหนเพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีบทเรียนต้องเอาไปแก้ไขเพราะเกิดขึ้นบ่อยมาก“
นางนิตยา กล่าวต่ออีกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งสำคัญคือความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจะรับผิดชอบอย่างไร ทางด้านคดีตำรวจบอกว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้วว่ามองไม่เห็นจริงๆ ซึ่งได้มีการแจ้งข้อหาประมาทและมีการควบคุมตัวดำเนินการตามกฎหมายและจะมีการนัดเจรจากับคู่กรณีในวันศุกร์ที่ 18 ส.ค.นี้ ที่ สภ.เมืองขอนแก่น อีกด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว ในวันที่ 11 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภาพจากกล้องวงจรปิด เผยวินาทีที่เกิดเหตุบริเวณสามแยกคณะเภสัชศาสตร์ มข. รถทัวร์คณะพยาบาลศาสตร์ กำลังเลี้ยวขวา ก่อนพุ่งชนรถจักรยานยนต์นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ที่จอดรออยู่สามแยกทำให้มีผู้เสียชีวิตบริเวณจุดเกิดเหตุ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา