สุราษฎร์ธานีฝึกศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดและการรับสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565
วันที่ 27 พ.ค.2565 นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัย มาตรการที่ 10 และมาตรการที่ 11 ตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฝึกซ้อมแผน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบริหารจัดการน้ำและเผชิญเหตุ ทั้งในส่วนกลางและหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ได้ร่วมซักซ้อมการปฏิบัติตามมาตรการ ให้สามารถติดตามประเมิน และคาดการณ์สถานการณ์น้ำ พร้อมแจ้งเตือน รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ และการให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบให้มีความเป็นเอกภาพ ทันต่อสถานการณ์เตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน ปี 2565 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี
สำหรับรูปแบบการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ เป็นการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ (Table Top Exercise : TTX) โดยจำลองสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี มีขั้นตอนในการจำลองการจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย และการใช้กลไกการปฏิบัติตามโครงสร้างของศูนย์ส่วนหน้า รวมทั้งการเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักรเครื่องมือ แผนเผชิญเหตุ โดยแบ่งการทำงานเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มคาดการณ์สภาพอากาศ กลุ่มประเมินสถานการณ์น้ำและบริหารจัดการน้ำ กลุ่มแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ กลุ่มปฏิบัติการและเผชิญเหตุ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม2565 รับทราบมาตรการรับมือฤดูฝนปี2565 และโครงสร้างเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2565 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี 2565/2566 โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงการเกิดอุทกภัยด้วย เพื่อให้การเตรียมการรับมือกับ “วิกฤตน้ำ” ในอนาคตภายใต้กลไกของ “ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ” ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 ในกรณีของสาธารณภัยด้านทรัพยากรน้ำ ความเชื่อมโยงระหว่างพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ที่ได้มีการจัดองค์กรหรือส่วนงานต่างๆ เพื่อรับผิดชอบทั้งในระดับนโยบาย ระดับบัญชาการระดับอำนวยการ และระดับปฏิบัติการ ตามระดับภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรณีที่สาธารณภัยร้ายแรงอยู่ในระดับ 3-4 ที่บูรณาการร่วมกับ “กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 และกฎหมายว่าด้วยการเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ดำเนินงานเพื่อการบริหารจัดการ “วิกฤตน้ำ” ที่มุ่งเน้นการจัดการ “มวลน้ำ” มากกว่า “มวลชน” ในภาวะฉุกเฉิน ยึดหลักสากลการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster RiskManagement) ตั้งแต่การเตรียมการป้องกันก่อนเกิดภัย การเตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยปฏิบัติ การวางแผนและจัดสรรน้ำอย่างเหมาะสม การวิเคราะห์คาดการณ์ที่แม่นยำทันต่อเหตุการณ์ การผันน้ำข้ามลุ่ม เพื่อบรรเทาผลกระทบ และการวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาระยะยาวเพื่อลดความเสี่ยง
อย่างไรก็ตามกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) จะดำเนินการขับเคลื่อน มาตรการที่ 11 ตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัย ผ่านกระบวนการจัดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือและกิจกรรมในการสร้างความพร้อมและเพิ่มศักยภาพของหน่วยงานและบุคลากร รวมทั้งทดสอบการประสานงานและบูรณาการความร่วมมือของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ และจะเป็นกลไกสนับสนุนการดำเนินการตามมาตรการที่ 10 จัดเตรียมพื้นที่อพยพและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุระดับต่าง ๆ โดยได้กำหนดแผนการฝึกซ้อมฯ ระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2565 แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะแรกได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (จังหวัดนำร่อง) พิษณุโลก อุบลราชธานี และจังหวัดชัยนาท ระยะถัดไป ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น จันทบุรี เพชรบุรี และจังหวัดยะลา โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณสำหรับการฝึกซ้อม