พบร่างแล้ว ร่างไร้วิญญาณ สองแม่ลูกจมน้ำโขงแล้ว ชาวประมงผงะกู้ข่ายเจอศพกอดกันแน่น ญาติไม่ติดใจ
นำกลับบ้านเกิด ชายขายปลาสะเดาะเคราะห์เล่าวินาทีสำคัญ
วันที่ 2 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 07.00 น. เรือเอก สุเทพ แสงอ่วม หัวหน้าสถานีเรือธาตุพนม (หน.สน.เรือฯ) หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม(นรข.เขตฯ) ประสานงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างนาวาธาตุพนม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หลังจากรับแจ้งจากชาวประมงหาปลาว่า พบสภาพศพผู้สูญหายในแม่น้ำโขง คือ นางวีณา แฮนเกตุ อายุ 44 ปี ตำแหน่งนักวิชาการ ชำนาญการ กองการศึกษาเทศบาลตำบลโคกภูอ.ภูพาน จ.สกลนคร โดยอุ้มน้องยินดีลูกสาววัย 7 ขวบ กระโดดน้ำโขงสูญหาย บริเวณท่าเทียบเรือประตูโขงในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนมเหนือ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาโดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการระดมสรรพกำลังการค้นหาทั้งทางผิวน้ำและใต้น้ำมานานกว่า 3 วันแต่ไม่พบร่างของผู้สูญหายทั้งสอง จนกระทั่งเช้าวันนี้พบศพผู้สูญหายลอยอืดติดริมฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5-6 กิโลเมตร คาดว่าไหลไปตามกระแสน้ำโขง ที่หดหู่ใจมากที่สุดคือสภาพศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 แม่ลูกยังอยู่ในสภาพกอดกันกลม โดยแม่สวมกางเกงวอร์มสีดำ เสื้อกีฬาสีเหลือง ส่วนลูกสาวนุ่งกางเกงขาสั้นชุดสีน้ำเงินสันนิษฐานว่าเป็นการจงใจกอดลูกกระโดดน้ำโขง เหตุที่คิดสั้นอาจมาจากภาระหนี้สินรุมเร้าเพราะญาติระบุว่ามีปัญหาหนี้สินแต่จะมีนอกระบบหรือไม่ยังไม่ทราบ และได้หย่าร้างกับสามีเมื่อ 3 -4 ปีที่ผ่านมา จึงกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องดูแลบุตรสาวคนเดียวเพียงลำพังอย่างไรก็ตามทางตำรวจ และแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม จะได้ตรวจสอบชันสูตรเก็บหลักฐาน ประกอบสำนวนคดีตามกฎหมายต่อไป โดยญาติไม่ติดใจการเสียชีวิตจึงมอบศพ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.สกลนคร ตามประเพณี
ซึ่งผู้พบศพชื่อนาย ปิ่นเพชร จาทา อายุ 44 ปี เป็นคนบ้านน้ำก่ำ ได้เล่าให้ฟังว่าช่วงเวลา 06.00 น. ตนได้ออกมายามปลาที่ได้ใส่ตาข่ายดักเอาไว้บริเวณริมแม่น้ำโขง ระหว่างกู้ข่ายดึงขึ้นมา ก็ต้องตกใจเพราะมีศพของมนุษย์ติดมาด้วย ลักษณะเป็นศพผู้หญิงกอดร่างเด็กเอาไว้แน่น พร้อมมีเสื้อแขนยาวผูกติดรอบเอวเอาไว้อีกที ซึ่งตนเห็นศพดังกล่าวก็ทราบได้ว่าเป็นศพที่เจ้าหน้าที่นั้นกำลังระดมตามหามาเป็นระยะเวลา 3 วันแล้วตามที่เป็นข่าวจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ.
โดยก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ่อค้าขายปลาไหลปล่อยทำบุญสะเดาะเคราะห์บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุชื่อนายมิตร วุธฒนา อายุ 60 ปี เล่านาทีที่ได้พูดคุยกับสองแม่ลูกว่า ก่อนเกิดเหตุพบสองแม่ลูกมาพูดคุยสอบถาม เรื่องติดต่อเรือท่องเที่ยวชมแม่น้ำโขง ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จากนั้นได้ลงไปนั่งเล่นตรงบันไดอัฒจันทร์ริมฝั่งแม่น้ำโขง และได้ลุกกลับมาถามซื้อปลาไหล 1 ถุง เป็นเงิน 100 บาท และบอกกับตนว่าเดินทางมาจาก จ.สกลนครเพื่อพาลูกสาวมาทำบุญ ก่อนที่จะนำปลาไปปล่อยและนำถังกลับมาส่งคืน และเดินลงไปนั่งเล่นบริเวณโป๊ะเรืออีกรอบ ผู้เป็นแม่ยังถามย้ำไปมาว่าระดับน้ำลึกแค่ไหน ตนยังได้พลั้งปากพูดไปว่าลึกมากถ้าตกลงไปคือ เตรียมลอยอังคารเลย จากนั้นห่างกันไม่นานได้ให้ลูกสาวขึ้นมาซื้อน้ำดื่ม1 ขวดลงไปอีกรอบ ซึ่งตนยังมองเห็นในระยะสายตา ขณะนั้นผู้ตายยังได้ตะโกนเรียกบอกว่าขอลงไปนั่งเล่นบนเรือริมฝั่งโขง ตนจึงได้บอกว่าให้ระวังด้วยนะน้ำลึกกลัวพลัดตก ผู้ตายจึงได้บอกอีกว่าถ้าลุงจะกลับให้เรียกด้วย เพราะเป็นเวลาใกล้พระอาทิตย์ตกดิน สุดท้ายตนแปลกใจเมื่อถึงเวลาตนจะกลับ ก็ไม่เห็นสองแม่ลูกยังไม่ขึ้นมา และใกล้มืดแล้วจึงตะโกนเรียกหลายครั้งไม่มีเสียงตอบรับ เมื่อเดินลงไปดูก็ไม่พบแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ พบเพียงกุญแจรถรองเท้า กระเป๋า เงินในเรือเท่านั้น จึงคิดว่าตกน้ำโขงสูญหายแล้ว
พ่อค้าขายปลาปล่อยสะเดาะเคราะห์กล่าวอีกว่า จะสันนิษฐานว่าเป็นอุบัติเหตุพลัดตกคงเป็นเรื่องยาก เพราะตนสังเกตพฤติกรรมก่อนที่จะเกิดเหตุ พบพิรุธหลายอย่างในการพูดคุย ผู้ตายชอบถามย้ำว่าน้ำลึกแค่ไหน อีกทั้งผิดปกติมีสีหน้าไม่ร่าเริงเศร้าหมองเหมือนคนเครียด ถ้าพลัดตกต้องมีการตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ ตนต้องได้ยินเสียงแน่นอน เพราะอยู่ห่างกันในระยะไม่ไกลมาก เชื่อว่าคงไปนั่งชั่งใจอยู่นาน ก่อนที่จะตัดสินใจพาลูกกอดกันลงน้ำ แต่คงไม่ใช้ลักษณะกระโดดเพราะไม่มีเสียงดัง แต่คงใช้วิธีการกอดลูกสาวหย่อนตัวลงจากเรือ ก่อนที่จะจมน้ำสูญหาย แต่อย่างไรเป็นเพียงข้อสันนิษฐานของตน ส่วนสาเหตุ
แท้จริงขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
เทพข่าวร้อน รายงาน