สทนช.ร่วมกับ ม.แม่ฟ้าหลวง เสนองานวิจัยร่วมไทย-เมียนมา จัดการทรัพยากรน้ำข้ามแดน ณ จ.เชียงราย
มุ่งแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำสายรวก
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ณ โรงแรมเลอเมอริเดียนเชียงรายรีสอร์ท จังหวัดเชียงราย นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมปรึกษาหารือระดับภูมิภาค และนำเสนอรายงานโครงการวิจัยเรื่อง “การประเมินร่วมกันของประเทศไทย และเมียนมาเรื่องอุทกภัยและภัยแล้งเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำข้ามแดนโดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานเปิดการประชุม ร่วมกับ รศ.ดร.ชยาพรวัฒนศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตจีน ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ผู้แทนจากหน่วยงานของไทยและเมียนมา ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งประชาชนและเกษตรกร เข้าร่วมประชุม
ในการประชุมปรึกษาหารือระดับภูมิภาค ว่าด้วยแม่น้ำสาย–รวก เป็นแม่น้ำระหว่างประเทศและเป็นพรมแดนระหว่างไทยและเมียนมา โดยมีต้นน้ำอยู่ที่ประเทศเมียนมา ไหลผ่านอำเภอแม่สาย และไหลลงแม่น้ำโขงที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคํา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ตอนล่างของลุ่ม น้ำบริเวณตลาดสายลมจอย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประเทศไทย และตลาดท่าขี้เหล็ก จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาได้รับ ผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันในช่วงฤดูฝนที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนเมืองและเขตเศรษฐกิจ รวมถึงประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่อผลิตน้ำประปาและทำการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ด้านล่างของ ลุ่มน้ำของประเทศไทย เช่น ในพื้นที่ ต.เกาะช้าง สายมิตรภาพอ.แม่สาย เป็นต้น
ดังนั้น สทนช. ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนนโยบายด้านน้ำ ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหา ดังกล่าว จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงดำเนินโครงการวิจัย“การประเมินร่วมของประเทศไทยและเมียนมา ด้านอุทกภัย และภัยแล้งเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำข้ามพรมแดน” โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการจากรัฐบาลสาธารณรัฐ ประชาชนจีนและกองทุนพิเศษภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง–ล้านช้าง ที่ให้การสนับสนุนทุน เพื่อศึกษาวิจัย และจัดทำข้อเสนอแนะวิธีการแก้ไข การบริหาร จัดการน้ำท่วมและน้ำแล้งในลุ่มน้ำสาย–รวก ระหว่างสองประเทศ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน อาทิ
1) การพัฒนา Mobile Application สองภาษา ได้แก่ ภาษาไทยและภาษาเมียนมา ที่มีข้อมูลสถานการณ์น้ำ การวิเคราะห์น้ำท่วมและภัยแล้ง พร้อมทั้งการคาดการณ์ล่วงหน้า ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบข้อมูลและเตรียมพร้อมรับมือได้ทันสถานการณ์
2)การพัฒนาระบบแจ้งเตือนปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณแม่น้ำดังกล่าวที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มศักยภาพการตั้งรับปรับตัวให้กับสังคมริมสองฝั่งแม่น้ำ
3)แบบจำลองการบริหารจัดการน้ำเพื่อใช้ในการวางแผนและประกอบการตัดสินใจ ที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ หรือหน่วยงานท้องถิ่นสามารถนำไปใช้วางแผนบริหารจัดการน้ำของแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก
4) แผนการจัดการน้ำระดับตำบลแบบมีส่วนร่วม เพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการลุ่มน้ำ องค์กรผู้ใช้น้ำ กลุ่มผู้ใช้น้ำ และหน่วยงานในพื้นที่เป็นผู้ขับเคลื่อนดำเนินการ เป็นต้น โดยการประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ผู้แทนนักวิจัยไทยและเมียนมาได้นำเสนอผลสำเร็จของโครงการให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ ทั้งยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้มีการซักถามข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงการด้วย