หมอขอนแก่น เตือนผู้ปกครองหมั่นดูอาการเด็กๆ หลังภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หวั่นป่วยด้วยโรคไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่และปอดบวม
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ รพ.ขอนแก่น ราม เขตเทศบาลนครขอนแก่น ยังคงมีผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคไข้หวัด โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดอักเสบ อันมีผลมาจากสภาวะที่เปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ ทยอยเข้ารับการรักษาที่รพ.ขอนแก่น รามอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเด็กๆในกลุ่มอายุไม่เกิน 2 ขวบ ที่ผู้ปกครองต่างนำพาบุตรหลานมาเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน รวมไปถึงในกลุ่มอายุ ตั้งแต่55 ปีขึ้นไปที่ทยอยเข้ารับการตรวจตามการนัดหมายของแพทย์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งจากการสอบถามพบว่าตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงมีผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคไข้หวัด,ไข้หวัดใหญ่,และโรคระบบทางเดินหายใจและโรคปอดบวม เข้ารับการรักษาและพบแพทย์วันละกว่า 30 ราย
พญ.ผาณิดา เนินทราย กุมารเวชศาสตร์ รพ.ขอนแก่น ราม กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยในระยะนี้ โดยบางวันในเขตเทศบาลฯอุณหภูมิอยู่ที่ 16-18 องศาเซลเซียสขณะที่พื้นที่บนยอดเขาและหุบเขาอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 10-14 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่นำเครื่องนุ่งห่มกันหนาวและเสื้อกันหนาวมาสวมใส่เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายตลอดทั้งวัน ในขณะที่เด็กๆโดยเฉพาะในกลุ่มอายุไม่เกิน 2 ขวบ ซึ่งพบว่าป่วยจากการติดเชื้อไวรัส จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้ทยอยเข้ารับการรักษาและพบแพทย์อย่างต่อเนืองทุกวัน รวมไปถึงกลุ่มเสี่ยงอีก 1 กลุ่มคือกลุ่มอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป ที่เข้ารับการรักษาและพบแพทย์ตามการนัดหมายในระยะนี้อย่างมากเช่นกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคไข้หวัด,ไข้หวัดใหญ่,โรคหัด,โรคอีสุกอีใส,โรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอดอักเสบหรือโรคปอดบวม ดังนั้นผู้ปกครองจึงจำเป็นจะต้องสังเกตอาการของผู้ป่วยหากพบความผิดปกติทั้งการหายใจแรง หายใจหอบเหนื่อย มีไข้สูง ควรรีบนำบุตรหลานมาพบแพทย์ทันที
“ ในระยะนี้โรคที่เกิดขึ้นจะเป็นกลุ่มไวรัส ที่มากับอากาศจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนาองมานานเกือบเดือน เด็กๆและกลุ่มผู้สูงอายุจึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญที่ต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น แต่ด้วยมาตรการควบคุมและป้องกันและการปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์โควิด ที่ทุกคนนั้นระมัดระวังตัวมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยเว้นระยะห่างทางสังคม และที่สำคัญคือการกินร้อน ช้อนส่วนตัว และล้างมือบ่อยๆ จะเป็นส่วนช่วยต้อการติดเชื้ออยู่ในภาวการณ์ป่วยได้อย่างมาก ดังนั้นหากพบสิ่งผิดปกติกับบุตรหลานหรือคนในครอบครัวควรพามาพบแพทย์ทันทีเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังคงขอเชิญชวนให้ชาวขอนแก่น โดยเฉพาะกับเด็กที่มีอายตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งจัดเป็นวัคซีนที่ทุกคนต้องเข้ารับการฉีดในแต่ละปี แต่การเข้าถึงวัคซีนหรือการไม่ยอมฉีดวัคซีนดังกล่าวยังเป็นประเด็นหลักที่ทำให้การป้องกันการติดเชื้อและการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ในระดับพื้นที่ยังมีมากขึ้นดังนั้นการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเด็กที่มี่อายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปและประชาชนทั่วไป จึงจำเป็นย่างยิ่งที่ชาวขอนแก่นจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี”
ขณะที่ นพ.ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น กล่าวว่า ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ได้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ,สปสช,และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น ในการจัดมหกรรมฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในวันที่ 14 ธ.ค. ที่หน่วยบริการวัคซีนของศูนย์อนามัยที่ 7 เพื่อให้ประชาชนชาวขอนแก่นเข้าถึงการรับบริการวัคซีนตามที่รัฐจัดสรร ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่สนใจทยอยลงทะเบียนผ่านทางเพจและเวปไซค์ของศูนย์อนามัยที่ 7 เพื่อแสดงความประสงค์ในการที่จะรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์แล้วอย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบบุคคล,แบบครอบครัวและแบบหน่วยงาน จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนชาวขอนแก่น และผู้ที่สนใจที่จะรับวัคซีนดังกล่าว ที่จะต้องตรวจสอบตัวเองก่อนว่า รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาก่อนหรือหลัง เกิน 14 วัน หรือไม่ และขอให้เร่งลงทะเบียนเพื่อยืนยันการเข้ารับการฉีดวัคซีนดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้กันในภาพรวมทั้งจังหวัด
