ชาวบ้านร้องส.ส.ดร.นิยม เวชกามาสถานีสูบน้ำใช้ไม่ได้
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 ที่บ้านโพนน้อย ตำบลบ้านโพน อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนครส.ส.ดร.นิยม เวชกามา พรรคเพื่อไทย เขต 2 จ.สกลนคร รุดลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตำบลบ้านโพน หลัง นายวิชาญ สมสวัสดิ์ กำนันตำบลบ้านโพน ร้องเรียน ระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านโพนน้อย ที่ใช้ผลิตระบบประปาหมู่บ้านเพื่อใช้ประโยชน์ ใน 9 หมู่บ้าน และการส่งน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรหลายร้อยไร่ ซึ่งสถานีสูบน้ำนี้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2561 แต่ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการใช้งานได้ทั้งระบบจนปัจจุบันและยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดำเนินการใดๆ จึงได้ร้องเรียนต่อ ส.ส.ดร.นิยม เวชกามา ให้เข้ามาช่วยเหลือติดตาม
โดยรายละเอียดโครงการระบบสถานีสูบน้ำบ้านโพนน้อย เป็นระบบสูบน้ำระดับ น้ำก่ำสูงประมาณ 0.30 เมตร ขนาดบ่อพักที่ขุด ขนาด 10x10x1.00 เมตร บรรจุ 130 ลูกบาศก์เมตรหรือ130,000 ลิตร เครื่องสูบน้ำขนาด 3 PHASE Motor (380-415V) สามารถสูบน้ำได้ 1,485 ลิตรต่อนาที มีสปริงเวย์กั้นลำน้ำก่ำชำรุดไม่สามารถใช้งานได้ สถานที่ดังกล่าวยังไม่มีการทดสอบระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านโพนน้อย รวมถึงมีปัญหาที่ดินที่ตั้งบริเวณโรงสูบน้ำเหตุดังกล่าวจึงทำให้ต้องอาศัยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ
ส.ส.ดร.นิยม เวชกามา พรรคเพื่อไทย เขต 2 จ.สกลนคร พร้อมด้วย นายสมหวัง ใยวังหน้านายกเทศบาลตำบลบ้านโพน และนายชัยวัฒน์ เวชกามา ปลัดเทศบาลตำบลบ้านโพน นายวิชาญ สมสวัสดิ์ กำนันตำบลบ้านโพน ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่และชี้จุดที่มีปัญหาเพื่อให้ ส.ส.ได้เห็นพื้นที่จริง
ส.ส.ดร.นิยมเวชกามา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่และมีการพูดคุยกับแกนนำชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นทราบว่าเกิดปัญหาจากการบริหารจัดการภายในของชลประทานน้ำก่ำในฐานะผู้กำกับดูแลโครงการก่อสร้างแม้ติดปัญหาที่ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2561 จนกระทั่งปัจจุบันปี2565 ยังไม่สามารถเปิดใช้งานเพื่อดำเนินการผลิตน้ำประปาแจกจ่ายแก่ประชาชนในพื้นที่ได้รวมถึงการแจกจ่ายน้ำเพื่อการเกษตรให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 9 หมู่บ้านล่าสุดตนในฐานะผู้แทนของชาวบ้านในเขตพื้นที่นี้ได้ทำการประสานงานกับผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำ
และบำรุงรักษาน้ำก่ำ สำนักงานชลประทานที่ 7 เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการติดตามช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนคาดว่าจะสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าติดขัดปัญหาเรื่องใดจึงยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้จะรีบดำเนินการติดต่อประสานงานต่อไปหากเรื่องยังไม่คืบหน้าตนจะนำปัญหาดังกล่าวเข้าหารือต่อการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในคราวต่อไปทันทีเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน
เบื้องต้นผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 ยืนยันเตรียมส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันทีเพื่อช่วยชาวบ้านให้ทันก่อนช่วงภัยแล้งที่จะกระทบกับชาวบ้านต่อไป