ตำรวจขอนแก่นรวบโจ๋วัย 19 ปีร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นพนักงานบริษัทขนส่งและเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกเหยื่อพัวพันคดีฟอกเงินจนเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินสูญกว่า 3 แสนบาท
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 พ.ค.2565 ที่ศูนยปฎิบัติการส่วนหน้า (ศปก.)สภ.เมืองขอนแก่นพ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น แถลงข่าวผลการจับกุม นายณัฐวิชช์ โรจสโนน้อยกุล อายุ 19ปี (ผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้ที่อยู่) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.ขอนแก่น ในข้อหากระทำผิดฐานนำข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดยได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนและฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรสจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกับชุดสืบสวน บก.สส.น.3 จับกุมตัวได้ที่บ้านพักไม่ทราบเลขที่บริเวณถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองขอนแก่น เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
พ.ต.อ.ปรีชา เร่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาร่วมขบวนการแกงค์คอลเซนเตอร์ ทำหน้าที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง(DHL) โทรหาเหยื่อโดยอ้างว่าผู้เสียหายมีสินค้าผิดกฎหมายติดค้างอยู่ทีด่านศุลกากร จ.เชียงราย ภายในพบหนังสือเดินทาง 5 เล่ม, บัตรเอทีเอ็ม5 ใบ ขณะนี้ยึดไว้เป็นของกลางและมีผู้ต้องหาอีกคนอ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เชียงราย โทรหลอกลวงและข่มขู่เหยื่อว่าเหยื่อมีส่วนกับคดีฟอกเงินพร้อมให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบบัญชีและแสดงความบริสุทธิ์ จนเหยื่อหลงเชื่อ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้
“จากการสืบสวนแม้ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ แต่พยานหลักฐานชัดเจนทั้งบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ที่เป็นบัญชีปลายทางที่ผู้เสีบหายโอนเงินมาให้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเงินประมาณ400,000 บาทที่ขณะนี้ได้อายัดบัญชีแล้ว อีกทั้งผู้ต้องหายังคงทำหน้าที่โทรหาเหยื่อ และทำร่วมกับพวกเป็นขบวนการและใช้บัญชีตนเองเป็นบัญชีรับเงิน อีกด้วย“
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้พบว่ามีเหยื่อเป็นชาวขอนแก่นถูกหลอกโอนเงิน 2 รายจำนวนเงินรวมกว่า 378,000 บาทและได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น และด้วยพยานหลักฐานต่างๆ สภ.เมืองขอนแก่น จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดขอนแก่นอนุมัติหมายจับจนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตามขอฝากเตือนประชาชนหากมีโทรศัพท์ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ตรวจสอบก่อนที่จะกระทำการโอนเงิน มิฉะนั้นอาจจะเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป