ทอ.เผยความก้าวหน้าโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน
วันที่ 7 มีนาคม 2565 พลอากาศตรีประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่าตามที่กองทัพอากาศได้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาและจัดทำความต้องการเครื่องบินขับไล่โจมตี โดยมีรองผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นประธาน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และเสนาธิการทหารอากาศ เป็นรองประธาน ซึ่งเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ได้จัดการประชุมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาภารกิจตามกฎหมายยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องวิเคราะห์ข้อมูล และได้กำหนดความต้องการเครื่องบินขับไล่โจมตีที่มีคุณภาพ (Quality Air Force) และมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย (Cutting-Edge Technology)
โดยเครื่องบินขับไล่โจมตีที่ต้องการ ต้องมีขีดความสามารถของการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations) มีการบริหารจัดการข้อมูลอัตโนมัติ ร่วมกับระบบตรวจจับของกองทัพไทย และฝ่ายพลเรือนได้อย่างสมบูรณ์ มีขีดความสามารถโจมตี ต่อต้านทางอากาศปฏิบัติกิจเฉพาะพิเศษลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ เพิ่มระยะการปฏิบัติการทางอากาศและการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีสมรรถนะสูงยุคที่ 5 (The 5th Generation Fighter) มีคุณลักษณะ 5 ประการ ได้แก่ Stealth, Super Cruise, Sensor Fusion, Super Maneuverable และ Synergistic Integrated Avionics พร้อมกำหนดข้อพิจารณาประกอบการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน ซึ่งสรุปได้ดังนี้
1. เป็นเครื่องบินที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทางทหาร (Military Standard) มาตรฐานจากองค์กรการบินสากลหรือองค์กรมาตรฐานของประเทศผู้ผลิต
2. เครื่องบินระบบต่างๆและอุปกรณ์ที่ติดตั้งใช้งาน ต้องผลิตโดยใช้มาตรฐานทางทหาร และผ่านการพิสูจน์การใช้งานแล้ว มีความน่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วไป
3. สามารถผลิตและนำส่งให้แก่กองทัพอากาศในกรอบงบประมาณ และตามห้วงระยะเวลาการจัดหา
4.มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินขับไล่โจมตี และเทคโนโลยีต่างๆที่เกี่ยวข้องให้แก่บุคลากรของกองทัพอากาศ
5.บุคลากรของกองทัพอากาศควรได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Offset Scholarship) เพื่อการพัฒนาด้านต่างๆ บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ โฆษกกองทัพอากาศ ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คณะกรรมการ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว โดยคำนึงถึงคุณภาพของกำลังทางอากาศ และขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศเป็นสำคัญ เพื่อประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่าในระยะยาว รวมทั้งการปกป้องผลประโยชน์และรักษาความมั่นคงของชาติ