อำนาจเจริญเจอฝนทิ้งช่วงนานนับเดือนนาข้าวกว่า1หมื่นไร่แห้งตาย
ระนาว–อดีตส.จ.4สมัยอำเภอหัวตะพาน วอนภาครัฐช่วยชาวนาด่วนร้องำปหลายหน่วยงานยังเงียบ
วันที่ 23 มิถุนายน 2565 นายประเสริฐ กานานนท์ อดีตส.อบจ.อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ 4 สมัย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า“ส.จ.ประเสริฐ” เปิดเผยว่า สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญนานกว่า 3-4 อาทิตย์ที่ผ่านมา ร้อนและแห้งแล้งบางวันอุณหภูมิขึ้นสูงถึง38-39 องศา และช่วงนี้อยู่ในช่วงปักดำนาข้าวของเกษตรกรที่มีอาชีพทำนา การได้รับผลกระทบกันทั่วหน้าคือเจอกับฝนทิ้งช่วงนานนับกว่า 1 เดือนนาข้าวใน 3 อำเภอ เมือง อำเภอหัวตะพาน และอำเภอเสนางคนิคมนาข้าวกว่า 10,000 ไร่ กำลังแห้งตายกันระนาว เนื่องจากขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นกล้าที่หว่านไว้บางแห่งสามารถใช้ไฟจุดต้นกล้าไหม้วอดได้ทั้งแปลงนาจึงวอนให้หน่วยงานราชการ โดยเฉพาะเกษตรอำเภอเกษตรจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบหาแนวทางเข้าแก้ไขบ้างไม่ใช่นั่งเทียนในห้องแอร์เพราะตนได้ร้องเรียนไปทุกหน่วยงานก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนลงไปตรวจสอบดูแลเลยแม้แต่หน่วยงานเดียวฝากถึงทางผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ช่วยสั่งการลงมาด้วย มี3 อำเภอ เจอแล้งหนักมีอำเภอหัวตะพาน อำเภอเสนางคนิคม และอำเภอเมืองอำนาจเจริญ กว่า 10,000 ไร่แห้งตายระนาว ดังกล่าวข้างต้นเนื่องจากฝนทิ้งช่วงมานานนับเดือนและพื้นที่นาข้าวเหล่านี้ไม่ใช่เป็นพื้นที่ของชลประทานผ่านอีกด้วยไม่สามารถนำน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้คงชีวิตไว้ต่อไปได้
นายประเสริฐ ยังกล่าวต่ออีกว่าที่สำคัญน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆตามห้วยหนองคลองบึงต่างมีระดับน้อยและลดต่ำลงไปมากสัตว์เลี้ยงจำพวกวัวควาย เริ่มจะหาแหล่งน้ำดื่มกินลำบากขึ้นทุกวันบางวันเจ้าของถึงกับซื้อน้ำจากรถขายน้ำมาให้สัตว์เลี้ยงได้ดื่มกินอีกด้วยขอให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบลงพื้นที่ตรวจสอบและหาทางเข้าแก้ไขโดยด่วนด้วยเพราะปีนี้หากไม่มีน้ำทำนาเกษตรกรชาวไร่ชาวนาคงประสบกับความลำบากเป็นอย่างยิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของนาข้าวที่ขาดน้ำมานานกว่า 1 เดือน นับวันจะแห้งตายโดยเฉพาะนาข้าวที่คลองชลประทานไม่พาดผ่านชาวนาบางคนถึงกับซื้อน้ำจากรถน้ำไปปล่อยลงพื้นที่นาข้าวของตนเองเพื่อให้ต้นกล้ามีชีวิตอยู่หากไม่มีฝนตกลงมาภายใน 1 อาทิตย์หน้าเชื่อว่านาข้าวคงเสียหายเป็นจำนวนมากอีกหลายหมื่นไร่ ซึ่งขณะนี้เองทางหน่วยงานของทางราชการยังไม่ลงพื้นที่สำรวจเลย ชาวนาวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจและหาทางเข้าช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ชาวนาซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ทั้งสิ้น ที่สำคัญโรคเพลี้ยระบาดต่างๆเริ่มลงเล่นงานต้นข้าวเป็นวงกว้างออกไปแล้ว วอน เกษตรอำเภอและเกษตรจังหวัดลงพื้นที่สำรวจหาความจริงด้วย
ภาพ–ข่าว/ทิพกร หวานอ่อน