จีนศึกษา๙๙ หารือไทย-จีน
การหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย – จีน เพื่อเป็นเวทีอย่างเป็นทางการสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันหารือ โดยไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหารือครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๘ – ๒๐ ส.ค.๕๖ ที่กรุงเทพฯ และจีนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๐ – ๑๑ ก.ค.๕๗ ที่กรุงปักกิ่ง ส่วนการประชุมหารือ ครั้งที่ ๓ ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๙ – ๓๑ มี.ค.๖๐ ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้มีวาระพิเศษในการหารือเพื่อจัดทำร่างแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ไทย–จีน (Joint Plan of Action on Thailand – China Strategic Cooperation) ฉบับที่ ๓ ค.ศ.๒๐๑๗ – ๒๐๒๑ (พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) เพื่อทดแทนแผนฯ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ที่เพิ่งหมดอายุลง สำหรับการประชุมหารือ ครั้งที่ ๔ โดยจีนเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๘ ก.ค.๖๒ ณ กรุงปักกิ่ง รวมทั้งการประชุมหารือ ครั้งที่ ๕ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งล่าสุด จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๕ พ.ค.๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีนายธานี ทองภักดีปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายอู๋ เจียงฮ่าว ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประธานร่วม
ในการประชุมหารือครั้งล่าสุดดังกล่าวนั้น ที่ประชุมได้ทบทวนความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทย – จีน นับตั้งแต่การหารือ ครั้งที่ ๔ และติดตามผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ไทย – จีน ฉบับที่๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) รวมถึงหารือเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนความร่วมมือทวิภาคีภายหลังสถานการณ์โควิด–๑๙ โดยเฉพาะการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันด้วยการลงนามในสัญญา ๒.๓ ของโครงการความร่วมมือรถไฟไทย – จีน
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยขอบคุณฝ่ายจีนสำหรับความร่วมมือในการจัดหาและการบริจาควัคซีนต้านโควิด–๑๙ ให้กับไทย ขณะที่ฝ่ายจีนแสดงความพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านนี้กับฝ่ายไทย รวมถึงด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนเพื่อพัฒนาให้ไทยเป็นฐานการผลิตวัคซีน ซึ่งที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด–๑๙ ผ่านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมถึงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางและการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจข้ามแดน และการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) กับเขตอ่าวกวางตุ้ง – ฮ่องกง – มาเก๊า (GBA) รวมถึงการสนับสนุนความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ของรัฐบาลไทยกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๔ ระยะ ๕ ปีของรัฐบาลจีน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจสีเขียว ดิจิทัลเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศด้านการลดความยากจน และที่สำคัญคือ ฝ่ายไทยได้แสดงความหวังว่าฝ่ายจีนจะพิจารณาคำขอให้สายการบินของไทยกลับมาทำการบินเชิงพาณิชย์ในจีน และอำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาไทยในการเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่จีนในโอกาสแรกอีกทั้งที่ประชุมสนับสนุนให้เร่งรัดหาข้อสรุปการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ไทย – จีน ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๖๕ – ๒๕๖๙) และร่างแผนความร่วมมือไทย – จีนว่าด้วยความร่วมมือในกรอบเส้นทางเศรษฐกิจสายไหมและข้อริเริ่มเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ.๒๕๖๔
ทั้งนี้ ฝ่ายจีนได้สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก (APEC) ของฝ่ายไทยในปี พ.ศ.๒๕๖๕
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
(ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://cpc.people.com.cn/big5/n1/2019/1107/c419242-31441727.html และเว็บไซต์ https://lawinfochina.com/display.aspx?id=7944&lib=tax&SearchKeyword=&SearchCKeyword= รวมทั้งเว็บไซต์https://www.mfa.go.th/th/content/sdthailandchina25052021?cate=5d5bcb4e15e39c306000683d )