ตร.ตั้ง 3 ข้อหาเอาผิดปลัด อบต.เมาแล้วขับ ชนแล้วหนี พร้อมออกหมายเรียกเจ้าตัวมารับทราบข้อกล่าวหาเป็นครั้งที่ 2 หากไม่มาออกหมายจับ
จากกรณีที่โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์ชายวัยรุ่น 2 คน ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะและเป็นผู้ถ่ายคลิปวิดีโอ ได้ขับรถยนต์ตามชายวัยกลางคน ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์เก๋งหลังจากถูกชายคนดังกล่าวขับรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนรถยนต์ของตนเอง แล้วขับรถหลบหนีมา ทำให้วัยรุ่นทั้ง 2 คนขับรถกระบะตามหา จนกระทั่งพบรถยนต์เก๋งของคู่กรณีจอดอยู่บนถนนข้างคลองน้ำ ในพื้นที่ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กม. เมื่อสอบถามชายวัยกลางคนซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา และยังบอกกับคู่กรณีว่า มีตำแหน่งเป็นปลัดฯ มีบ้านอยู่แถวนี้ และในระหว่างพูดคุยกัน พร้อมกับรอเจ้าหน้าที่ตำรวจและประกันภัยมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ชายคนดังกล่าวพยายามที่จะขึ้นไปขับรถของตนเองออกจากจุดเกิดเหตุ ถึง 2 รอบ แต่ก็ไม่สามารถขับรถออกไปได้ เนื่องจากรถสตาร์ทไม่ติด
ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 ก.พ.2565 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผบช.ภ.4 ฐานะ โฆษกตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นที่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ซึ่งจากากรตรวจสอบพบว่าบุคคลตามภาพที่ปรากฏ เป็นข้าราชการ ในพื้นที่ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น มีตำแหน่งเป็นปลัด อบต. โดยหลังจากเกิดเหตุในวันเดียวกันคือวันที่1 ก.พ.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง ท้องที่ที่เกิดเหตุ ได้ให้เจ้าตัวมาพบในวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมาเวลา 10.00 น. แต่เจ้าตัวมาพบเจ้าหน้าที่ในเวลา 17.00 น.ในสภาพที่เมาสุราอย่างหนัก ซึ่งพนักงานสอบสวนเห็นว่าไม่สามารถที่จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ จึงได้ส่งมอบหมายเรียกให้เจ้าตัวมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันนี้ แต่จนถึงสิ้นสุดเวลาทำการเจ้าตัวไม่ยอมมาพบ จึงทำการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ให้มาพบกับพนักงานสอบสวน ในวันพรุ่งนี้ ( 9 ก.พ.)ในเวลา13.00 น. โดยได้ส่งหมายเรียกไปที่บ้านพักในเขต อ.น้ำพอง ,ส่งหมายเรียกไปที่ที่ทำงานของเจ้าตัวคือที่ อบต.บ้านโนน และ ส่งหมายเรียกไปตามภูมิลำคือที่ เขต ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น
“หากในวันพรุ่งนี้บุคคลดังกล่าวยังไม่มาพบกับพนักงานสอบสวนก็จะมีการออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวแล้วรวม 3 ข้อหา คือขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย,ขับรถในขณะเมาสุราและข้อหาเมื่อเกิดเหตุแล้วไม่ยอมหยุดรถช่วยเหลือ ซึ่งหากการเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ก็จะมีการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนจะตั้งข้อหาใดเพิ่มเติมนั้นต้องรอการสอบปากคำผู้ต้องหาและผู้เสียหายในภาพรวมทั้งหมดเสียก่อน”
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า คดีที่เกิดขึ้นนั้นแม้ฝ่ายผู้ต้องหาจะเป็นข้าราชการระดับสูงในพื้นที่จ.ขอนแก่น แต่การดำเนินงานขอเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมาย