“ปวีณา” เผย เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวอย่างยิ่ง ถือเป็นกฎหมายที่สำคัญที่หลายประเทศใช้อยู่ และขอให้เกิดการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพสร้างมิติสังคมไทยให้เด็กสตรี รวมถึงประชาชนทุกคนปลอดภัย และมูลนิธิปวีณาฯ ยินดีประชาสัมพันธ์เพื่อให้ความรู้และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
วันที่ 15 ก.ค.64 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางปวีณาหงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ให้การต้อนรับ นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เและนางสาวเอมอร เสียงใหญ่ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ที่เข้าพบเพื่อรับฟังความคิดเห็นเรื่อง ร่าง พ.ร.บ. ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ผู้ใช้ความรุนแรง พ.ศ. … และขอความอนุเคราะห์ให้ทางมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยดำเนินการในด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และการสร้างความรับรู้ร่างกฎหมายเฝ้าระวังผู้พ้นโทษในคดีร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อสังคมให้แก่ประชาชน
น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดคดีอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ…. ว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวกระทรวงยุติธรรมร่างเสร็จเรียบร้อยโดยได้ส่งเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ซึ่งหัวใจสำคัญของกฎหมายฉบับนี้คือ ร่างกฎหมายอันเป็นที่ยอมรับของสหประชาชาติ โดยผ่านการกำหนดให้มีมาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางการปฏิบัติในการป้องกันไม่ให้ผู้ที่กระทำผิดในคดีอุกฉกรรจ์กลับไปทำความผิดซ้ำ รวมถึงก่อคดีสะเทือนขวัญอีก ซึ่งนายสมศักดิ์เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้องการให้มีการขับเคลื่อนงานด้านประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงร่างกฎหมายฉบับนี้ และต้องการให้ผู้หญิงทุกคนในสังคมรับรู้และตื่นตัว ดังนั้นตนได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นพร้อมเชิญผู้บริหารระดับสูงจากหลายกรมในกระทรวง และบุคคลภายนอกที่ชำนาญเกี่ยวกับเรื่องเด็กเยาวชน และสตรี เข้าร่วมประชุมและหารือด้วย ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี เพราะกฎหมายนี้จะสร้างความปลอดภัยให้กับผู้หญิงได้มากยิ่งขึ้น
น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ เปิดเผยอีกว่า หากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนมีกลไกและเครื่องมือในการบริหารจัดการผู้กระทำผิดในคดีอุกฉกรรจ์ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ครอบคลุมทุกปัจจัยเสี่ยง อีกทั้งร่างกฎหมายดังกล่าวจะช่วยเพิ่มบทบาทอำนาจหน้าที่ให้กับศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน (Justice Safety Observation Ad Hoc Center JSOC) ในการเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมของผู้ทำผิดภายหลังได้รับการปล่อยตัวซึ่งจะทำให้สังคมมีความปลอดภัยมากขึ้น
ด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับฟังข้อคิดเห็นเรื่อง ร่าง พ.ร.บ. ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ผู้ใช้ความรุนแรง พ.ศ. …. ให้ความเห็นสนับสนุนการร่าง พ.ร.บ.ฯ นี้ อย่างยิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายที่สำคัญมากในต่างประเทศมีกฎหมายที่บัญญัติเป็นแนวทางการควบคุมและติดตามผู้กระทำผิดซ้ำในคดีทางเพศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ใช้ระบบการลงทะเบียนผู้กระทำผิดทางเพศ ในเอเซียมีประเทศเกาหลีใต้ ใต้หวัน ในอาเซียนมีประเทศมาเลเซีย แต่ยังไม่ออกเป็นกฎหมายบัญญัติ ทั้งนี้ระบบนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยกำลังมีความก้าวหน้าและมีพัฒนาการที่สำคัญในการออกกฎหมายฉบับนี้ ทั้งนี้เมื่อออกกฎหมายนี้มาแล้วขอให้เกิดการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาเครื่องมือต่างๆ ที่จะนำมาใช้ให้เกิดผลสูงสุดในการป้องกันผู้กระทำผิดซ้ำและสร้างมิติของสังคมไทยที่ปลอดภัยให้กับเด็กและสตรี รวมถึงประชาชนทุกคนในประเทศไทย
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า จากประสบการณ์มูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องราวร้องทุกข์ทั้งคดีข่มขืนเด็กและสตรี ทารุณกรรม ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย คดีอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรงตลอดระยะเวลา 22 ปี ที่ก่อตั้งมูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องร้องทุกข์เดือนละประมาณ 700-800 ราย จะพบบ่อยครั้งที่ผู้กระทำความผิดเคยต้องโทษมาแล้วกลับมาทำความผิดซ้ำอีก ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ที่มาของการยกร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวนี้ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำผิดคดีอุกฉกรรจ์โดยให้มีมาตรการป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟูผู้กระทำผิดก่อนพ้นโทษ และมีมาตรการเฝ้าระวังหลังพ้นโทษโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน มูลนิธิปวีณาฯ เห็นด้วยกับยกร่างพ.ร.บ.ป้องกันการกระทำผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดคดีอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรงพ.ศ…. ดังกล่าวข้างต้นและยินดีเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ความรู้และเป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไป