“ปวีณา” ลงพื้นที่สน.ทุ่งครุ ช่วยด.ญ.วัย 12 ปี ชาวลาว หนีพ่อแม่จากประเทศลาวมารับจ้างทำงานบ้านได้ 3 วัน ถูกนายจ้างผู้ชายข่มขืน
อ้างว่าเป็นตำรวจ เด็กโร่ร้องมูลนิธิปวีณาฯ “ปวีณา” ประสาน พ.ต.อ. ธงชัย บัวรังษีผกก.สน.ทุ่งครุ ออกหมายจับนายจ้างหื่นแล้ว!! พบเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในจ.สมุทรปราการเพื่อดำเนินคดีทันที
สืบเนื่องจากวันที่ 29 ก.ย.66 ป้าพา ด.ญ.ดาว (นามสมมติ) หลานสาววัย 12 ปี ทั้งสองเป็นชาวลาว เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ป้าแจ้งว่า นายหน้าพาด.ญ.ดาว ที่นับถือตนเหมือนป้าเดินทางมาจากลาวไปรับจ้างทำงานบ้านอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งย่านทุ่งครุ กรุงเทพฯ โดยเจ้าของบ้านจ่ายเงินให้ 2,500 บาท กับนายหน้า เพื่อมาทำงานวันที่ 26 ก.ย.
ต่อมาวันที่ 29 ก.ย. 66 เพื่อนของ ด.ญ.ดาว ส่งข้อความมาหาป้าว่า ด.ญ.ดาว ถูกนายจ้างข่มขืน เมื่อป้าทราบจึงโทรหา ด.ญ.ดาวเพื่อสอบถาม ด.ญ.ดาว บอกป้าว่าถูกนายจ้างผู้ชายข่มขืนจริงโดขไขกุญแจเข้าไปกลางดึกตอนตี 1 แล้วบอกว่าเจ๊นายจ้างให้เข้ามานอนด้วย ด.ญ.ดาว ขัดขืนแต่ถูกใช้แรงผลักบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นป้าได้พูดโทรศัพท์กับนายจ้างผู้หญิงถามว่านายจ้างผู้ชายได้ข่มขืน ด.ญ.ดาว หรือไม่นายจ้างหญิงได้ตอบปฏิเสธ ป้าจึงขอรับตัว ด.ญ.ดาว กลับไป เจ๊ไม่ขัดข้องหากด.ญ.ดาว อยากกลับไปด้วย เมื่อป้าเดินทางไปรับ ด.ญ.ดาว นายจ้างผู้หญิงบอกให้รอเฮียก่อน เฮียกำลังตามมา ทางป้าเกรงจะไม่ปลอดภัยจึงนั่งรถออกมาไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตัดสินใจพาหลานเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ
ด.ญ.ดาว กล่าวว่า หนูอยากทำงานหาเงินเพื่อนจึงชวนมาที่ไทยโดยที่หนูไม่ได้บอกพ่อแม่ นายหน้าเรียกเก็บเงิน 6 พันบาท เป็นค่าเดินทางและหานายจ้างให้ วันที่ 26 ก.ย.66 หนูได้ไปทำงานบ้านและเลี้ยงลูกให้กับสามีภรรยาคู่หนึ่ง ตกลงค่าจ้างที่เดือนละ 9 พันบาท โดยกินนอนอยู่ที่บ้านนายจ้าง โดยหนูจ่ายเงินค่านายหน้าจำนวน 500 บาท ส่วนนายจ้างจ่าย 2,500 บาทให้แก่นายหน้า แต่ทำงานอยู่ได้ 3 วัน
“คืนวันที่ 29 ก.ย.66 หนูเข้าห้องนอนและล็อกห้องไว้ ช่วงตี 1 จู่ๆ นายผู้ชายได้ใช้กุญแจไขประตูเข้ามาในห้องและใช้กำลังข่มขืนหนูบังคับไม่ให้หนูร้องขอความช่วยเหลือ หนูสู้แรงไม่ไหวและกลัวจนตัวสั่น นายผู้ชายกระทำจนสำเร็จความใคร่ก่อนจะออกไปจากห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอตอนเช้าหนูได้บอกเรื่องนี้กับเจ๊นายจ้างเขารีบซื้อยาคุมฉุกเฉินให้หนูกินและบอกว่าไม่ให้เอาเรื่อง ส่วนนายผู้ชายก็บอกว่าเขาเป็นตำรวจทำอะไรเขาไม่ได้ ถ้าหนูไปแจ้งความตำรวจก็จะจับหนูเพราะหลบหนีเข้าเมือง หนูกลัวมากขอช่วยหนูด้วย”
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ธงชัย บัวรังษี ผกก.สน.ทุ่งครุ กทม. เเละประสาน น.ส.กุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กเเละครอบครัวกรุงเทพมหานคร มูลนิธิปวีณาฯ ได้รับเด็กผู้เสียหายเข้ารับการคุ้มครองที่บ้านพักเด็กฯ ทันที ก่อนจะนัดหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กกรุงเทพฯ พา ด.ญ.ดาว ไปแจ้งความที่สน.ทุ่งครุ ในวันที่ 30 ก.ย. พร้อมสอบสหวิชาชีพและตรวจร่างกายหลังดำเนินการแจ้งความเสร็จพนักงานสอบสวนได้พาด.ญ.ดาว ไปชี้บ้านที่เกิดเหตุ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ นายจ้างที่ก่อเหตุในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี, ให้ที่พักพิงคนต่างด้าว, จ้างแรงงานผิดกฎหมาย ก่อนที่พ.ต.อ.ธงชัย บัวรังษี ผกก.สน.ทุ่งครุ จะนำกำลังตำรวจเข้าจับกุมตัวนายจ้างมาดำเนินคดี
วันที่ 1 ต.ค. 66 นางปวีณาฯ ได้เดินทางมาพร้อมพนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เพื่อประชุมกับ ผกก.สน.ทุ่งครุ ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งว่าขณะนี้ได้ศาลได้อนุมัติให้ออกหมายจับและหมายค้นบ้านหลังดังกล่าวแล้ว
นางปวีณา กล่าวว่า เด็กต่างด้าวหลบหนีเข้าประเทศไทยมาหางานทำเพราะความยากจน แต่กลับมีบุคคลกลุ่มหนึ่งอาศัยความยากลำบากของเด็กเอามาเป็นเครื่องมือของการทำมาหากินโดยพาเด็กไปค้าแรงงานเถื่อนซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย