ร้องปวีณา หลังเฒ่า 73 ข่มขืนหลานเมียกำพร้าตั้งแต่ 6 ขวบถึง 14 ปี
โชคดีเกิดปาฏิหาริย์ พ่อแท้ ตามหาลูกสาวพลัดพรากกันตั้งแต่ 2 ขวบจนเจอทางเฟสบุ๊คลูกเอ่ยทั้งน้ำตา พ่อช่วยด้วยหนูถูกตาเลี้ยงข่มขืนมาเป็นเวลา 8 ปี อีกเคส สาวไทยดิ่งตึกตายปริศนาหลังไปทำงานที่ญี่ปุ่นเพียง 1 วัน !!!
เคสแรก 1.จ.ชุมพร พ่อร้อง ลูกสาววัย 14 ปี ถูกตาเลี้ยงข่มขืนมาราธอน 8 ปี ตั้งแต่ 6 ขวบถึง 14 ปี เรื่องนี้เป็นความลับที่ลูกสาวปกปิดมานานตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เพราะถูกตาเลี้ยงขู่ว่า ถ้าบอกยายจะฆ่าให้ตาย ลูกสาวกับพ่อนั้นพลัดพรากกัน 12 ปี แม่อุ้มหนีไปตั้งแต่ลูกสาวอายุ 2 ขวบ มีเพียงภาพถ่ายเหลือไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งพ่อพยายามใช้รูปตามหาลูกทุกวิถีทาง โดยโพสต์รูปภาพลูกสาวลงเฟสบุ๊ค จนกระทั่งเพื่อนของลูกสาวเห็นเฟสบุ๊คที่พ่อโพสต์รูปลูกสาวสมัยเด็กๆ เพื่อนลูกสาวจึงได้โทรไปบอกว่ามีคนตามหาเธอ ลูกสาวจึงทักเฟสบุ๊คมาหาพ่อ จึงรู้ว่าเป็นพ่อ ต่อมาติดต่อกันได้ ถามไถ่ทุกข์สุขลูกกลับเปิดปากขอพ่อช่วย ลูกถูกตาเลี้ยงข่มขืนจนกระทั้งได้นัดแนะกัน เพื่อพ่อจะมารับลูกเพื่อพาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองชุมพร ซึ่งเป็นวันแรกที่พ่อลูกได้พบหน้ากัน หลังจากแจ้งความพ่อและแม่เลี้ยงได้โทรสายด่วน 1134 มาร้องทุกข์กับมุลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยเหลือติดตามคดี หลังนางปวีณา ได้รับเรื่องจึงได้ประสานกับ ผกก.สภ.เมืองชุมพรนัดสอบสหวิชาชีพ ตรวจร่างกาย และวันที่ 9 ก.ย. พ.ต.อ.เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ผกก.สภ.เมืองชุมพร ได้รายงาน นางปวีณา ว่าตำรวจได้เรียกตาเลี้ยงมารับทราบข้อกล่าวหาและได้ส่งตัวฝากขังที่ศาล แต่ศาลให้ประกันตัวแล้ว นางปวีณา จึงได้แจ้งพ่อกับแม่เลี้ยงเด็กทราบ
วันที่ 10 ก.ย. 66 จึงขอเข้าพบ นางปวีณา หงสกุล เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย เพราะวันที่ 8 ก.ย. 66 ตาเลี้ยงได้โทรมาหาพ่อเพื่อขอเจรจาซึ่งพ่อได้อัดคลิปเสียงไว้จะส่งให้ตำรวจ
วันที่ 10 ก.ย.66 นายเอ้ อายุ 40 ปี อาชีพ รปภ. ได้พา ด.ญ.ป๊อบ ลูกสาวอายุ 14 ปี (ทั้งสองนามสมมุติ) เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ตนกับอดีตภรรยาเลิกรากันตั้งแต่ลูกสาว 2 ขวบ จากนั้นอดีตภรรยาอุ้มลูกจากไป ซึ่งตนไม่รู้ว่าลูกไปอยู่ที่ไหน ตนมีเพียงรูปถ่ายของลูกสาวตอนอายุ 2 ขวบเท่านั้น
ที่ผ่านมาตนคิดถึงลูกมาก อยากเจอลูกจึงเอารูปลูกสาวไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก โดยหวังว่าจะได้เจอลูกสักวัน กระทั่งเดือนส.ค. 2566 มีเฟซบุ๊กเพื่อนลูกสาวทักมาถามว่าเป็นอะไรกับเด็กในรูป ตนจึงบอกว่าเป็นพ่อ และเพื่อนก็ให้เฟซบุ๊กของลูกสาวมา พ่อลูกจึงได้ติดต่อกันคุยกันในแชตประมาณ 1 เดือน จนลูกแน่ใจและไว้ใจพ่อ และยอกขอให้พ่อช่วย
ลูกสาวเล่าว่า “หนูไปอยู่ชุมพรเพราะแม่ยกหนูให้กับน้องสาวยายซึ่งอยู่กับสามีใหม่วัย73 ปี พอหนู 6 ขวบ ก็ถูกตาเลี้ยงข่มขืนเรื่อยมาเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน ล่าสุดยังถูกกระทำเมื่อวันที่ 21 ก.ค.66 นี้เอง หนูไม่กล้าบอกใครเพราะตาเลี้ยงเป็นทหารเก่า ข่มขู่ว่าเคยฆ่าคนมาเยอะแล้ว ถ้าเอาเรื่องไปบอกใครจะฆ่าให้ตาย หนูไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครที่ไหน แม่กับยายก็ติดเหล้าอยู่จ.นครสวรรค์ ถ้าบอกเขาก็คงช่วยเหลืออะไรไม่ได้ กระทั่งมาเจอพ่อหนูจึงเล่าความจริงทั้งหมด ให้พ่อช่วยหนูพ้นจากขุมนรก”
นายเอ้ กล่าวอีกว่า หลังทราบเรื่องจากลูกจึงได้บอกให้ลูกทำตัวเป็นปกติ เพราะทุกวันตาเลี้ยงคนนี้จะไปรับส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน ตนจึงเดินทางไปชุมพรและวางแผนให้ลูกออกมาหา หลังถึงโรงเรียนแล้ว หลังเจอกันตนได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็รีบพาลูกเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองชุมพร เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจได้ดำเนินการส่งลูกไปตรวจร่างกาย และสอบปากคำเสร็จในวันเดียว จากนั้นตนจึงได้พาลูกกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯด้วยกัน
วานนี้ (9 ก.ย.) ตนรู้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชุมพร ได้จับกุมตาเลี้ยงมาดำเนินคดีแล้ว แต่เมื่อถูกคุมตัวส่งฝากขังศาลก็ได้รับการประกันตัวออกมา ตอนนี้ตนกับลูกอยู่ไม่เป็นสุขเกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะตาเลี้ยงเป็นทหารเก่าและกว้างขวางในพื้นที่ วันก่อนตาเลี้ยงโทรมาหาพูดจาขอไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่อง แต่ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จึงตัดสินใจร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ
ขอความช่วยเหลือให้ได้รับความปลอดภัย
หลังรับเรื่องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองชุมพร หากผู้เสียหายถูกข่มขู่ก็ขอให้ช่วยทำเรื่องคัดค้านการประกันตัวตาเลี้ยงที่
ก่อเหตุ และประสาน นางสาวจิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายย.และจำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ (สชง.กคส.) กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามความคืบหน้าต่อไป