ปวีณา” ลั่น ฆาตกรโหดเหี้ยมรายนี้ต้องประหารสถานเดียว!
พบฆาตกรรมไปแล้ว 2 ศพ ล่าสุดทารุณกรรมเหยื่อสาหัสอีก 1 ราย ขอบคุณกองปราบฯช่วยชีวิตได้ทัน 15 ต.ค.นี้ “ปวีณา” พาแม่บินไปจ.พัทลุง เพื่อเยี่ยมลูกที่รพ.พัทลุง แม่ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
สืบเนื่องจาก วันที่ 12 ต.ค.65 ตร.กองปราบปรามบุกจับ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 27 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ที่ห้องพักแมนชั่นแห่งหนึ่ง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุงพร้อมช่วยน.ส.เอ (นามสมมุติ) เหยื่อหญิงสาว อายุ 31 ปี ชาวจ.ลำพูน ที่ถูกแชทลวงมากักขังทำร้ายอย่างทารุณ ซึ่งแม่ร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาฯ วันที่ 14 ก.ย.65
แม่แจ้งว่า วันที่ 6 ก.ย.65 ลูกสาวถูกล่อลวงไปกักขัง คนร้ายส่งรูปโป๊เปลือยของลูกสาวที่มีรอยเขียวช้ำตามตัว และโทรศัพท์มาหาก่อนทำร้ายลูกสาวให้ได้ยินเสียงร้องเจ็บปวด พร้อมข่มขู่ให้โอนเงิน แต่แม่ไม่มีให้ คนร้ายจึงโทรมาข่มขู่จะฆ่าลูกสาว แม่จึงไปแจ้งความสภ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน และขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ นางปวีณาประสาน ตำรวจสภ.บ้านโฮ่ง ช่วยติดตามหาตัวน.ส.เอ กระทั่งกองปราบปรามได้บุกไปจับกุมตัวนายบี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี ทำร้ายหญิงสาวจนถึงแก่ความตาย เมื่อเดือนก.ค.65 และช่วยเหลือน.ส.เอ ส่งโรงพยาบาล ต่อมาตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งสน.บางยี่ขัน ตามหมายจับเพื่อดำเนินคดีต่อไป
วันที่ 14 ต.ค.65 สภ.เมืองพัทลุง เตรียมออกหมายจับนายบี ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และหน่วงหนี่ยวกักขัง ก่อนจะทำการอายัดตัวผู้ต้องหาที่สน.บางยี่ขัน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ส่วนในเรื่องความปลอดภัยของเหยื่อสาวที่รักษาตัวอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทลุงได้จัดกำลังดูแลที่รพ.ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่อาการบาดเจ็บของน.ส.เอ เหยื่อสาวผู้เคราะห์ร้าย แพทย์ตรวจพบ ซี่โครงข้างขวาซี่ที่ 5-7 หัก ซี่โครงข้างซ้าย ซี่ที่ 5-10 หัก กระดูกสันหลังหัก ม้ามบาดเจ็บระดับ 1 เลือดออกในช่องท้อง ยังต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ล่าสุดแพทย์แจ้งว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
วันเสาร์ที่ 15 ต.ค.65 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จะพาแม่ของน.ส.เอ บินไปจ.พัทลุง เพื่อไปเยี่ยมลูกสาวที่รพ.พัทลุง และจะพาไปแจ้งความดำเนินคดีที่สภ.เมืองพัทลุง เพื่อดำเนินคดีกับนายบี ฆาตกรโหดให้ถึงที่สุด
ด้านแม่ น.ส.บี เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย กล่าวว่า ขอบคุณมูลนิธิปวีณาฯ กองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนาย หากตำรวจไม่เข้าไปจับกุมฆาตกรโหดรายนี้ ลูกสาวตนอาจจะตายอยู่ในห้องนั้นก็ได้ ตนขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และขอให้คนร้ายรายนี้ได้รับโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับใครอีก
