ปู่ร้อง “ปวีณา” ช่วยหลานชายวัย 12 ปีถูกแม่เลี้ยงทำร้ายตั้งแต่ 8 ขวบเป็นเวลา 4 ปี
แม่เลี้ยงใจยักษ์
12 ก.พ.65 จ.เชียงใหม่ ปู่ร้อง “ปวีณา” ช่วยหลานชายวัย 12 ปีถูกแม่เลี้ยงทำร้ายตั้งแต่ 8 ขวบเป็นเวลา 4 ปี ล่าสุดใช้คีมหมุนลวดตีบริเวณฟันหน้าและดึงฟันให้หลุดจนเลือดกลบปาก และยังใช้เชือกแช่น้ำตีตามลำตัว จนมีบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ไปทั้งตัว ปวีณารุดประสาน ผกก.สภ.นาหวาย จับกุมแม่เลี้ยงแล้ววันนี้
สืบเนื่องจากวันที่ 8 ก.พ.65 นายเชาว์ (นามสมมติ) ชาวจ.เชียงใหม่ มีศักดิ์เป็นปู่(น้องชายของย่า) ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ด.ช.หนึ่ง (นามสมมติ) หลานชายอายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้นป.6 อาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงอายุ 32 ปี เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนไปเยี่ยมที่บ้านพบด.ช.หนึ่งใบหน้าและตามตัวมีบาดแผล รอยเขียวช้ำไปทั่ว ทั้งแผลใหม่และแผลเก่า ด้วยความสงสารตนจึงพาหลานไปพบแพทย์ โดยด.ช.หนึ่งบอกกับแพทย์ว่า ที่ผ่านมาตลอด 4 ปีที่แม่เลี้ยงมาอยู่ด้วยนั้น แม่เลี้ยงมักจะทุบตีทารุณเป็นประจำ บางครั้งเอากระทะทำครัวมาตีที่ใบหน้าและถูไปมา อีกทั้งเอาคีมหมุนลวดมาตีที่ฟันหน้า ใช้คีมพยายามจะถอนฟันจนเลือดไหลกลบปาก และใช้เชือกแช่น้ำตีตามขาทั้งสองข้าง ทุกครั้งแม่เลี้ยงจะข่มขู่ไม่ให้บอกใคร มิฉะนั้นจะถูกทำร้ายหนักกว่าเดิม
เมื่อได้ทราบเรื่องทั้งหมดตนจึงพาหลานมาอยู่ด้วยก่อนจะพาไปแจ้งความที่ สภ.นาหวายจ.เชียงใหม่ ที่ผ่านมาพ่อของหลานพยายามที่จะมารับลูกกลับไป แต่ตนไม่ให้เพราะเกรงว่าหลานจะถูกแม่เลี้ยงทำร้ายอีก ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ติ๊บมาผกก.สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่ และให้นายเชาว์พาหลานชายวัย 12 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.ประดิษฐ์ในวันที่ 9 ก.พ.65 เวลา 10.00 น. เพื่อสอบสหวิชาชีพเด็ก ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับแม่เลี้ยง
ล่าสุดวันที่ 12 ก.พ.65 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับรายงานจากพ.ต.อ.ประดิษฐ์ ติ๊บมา ผกก.สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่ว่า ตำรวจได้จับกุมแม่เลี้ยงมาดำเนินคดีข้อหากระทำความผิดฐานทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, กระทำความรุนแรงในครอบครัว, ทารุณกรรมเด็กและหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และจะส่งศาลเพื่อฝากขังในวันนี้ ปู่เด็กแจ้งว่าเด็กมีความเครียด จึงได้ประสานนางรชยา ฮั่นตระกูล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ให้ฟื้นฟูสภาพจิตทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ ร่วมกับพัฒนาสังคมจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป