นายเอกวิทย์ มีเพียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานพิธีเปิดงานสัมมนา “ฟาร์มสามารถ ฟาร์มรัก ฟาร์มร่วมมือ สู่ฟาร์มเรียนรู้”
7 ธันวาคม 2565 ที่สมาคมคนพิการปทุมธานี เลขที่ 3 หมู่ที่ 1 ต.คลองสองอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายเอกวิทย์ มีเพียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานพิธีเปิดงานสัมมนา “ฟาร์มสามารถ ฟาร์มรัก ฟาร์มร่วมมือ สู่ฟาร์มเรียนรู้” ภายในงานได้รับเกียรติจาก นางกีต้า ซับระวาล ผู้ประสานงานสหประชาชาติ นายอาซิสเอลเบห์ริ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติดร.วนิดา กำเนิดเพชร กระทรวงเกษตรฯ ผศ.ดร.ฤทธิรงค์ จุฑาพฤฒิกร คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช หัวหน้าโครงการวิจัยการพัฒนานำร่องระบบนิเวศหมู่บ้านดิจิทัลในประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายเขื่อน สุปัญบุตร นายกสมาคมคนพิการปทุมธานี และหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสมาคมคนพิการจังหวัดปทุมธานี
รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ระยะเวลาที่ผ่านมา ได้เห็นถึงการเจริญเติบโต และพัฒนาการของสมาคมคนพิการจังหวัดปทุมธานีและชุมชนละแวกนี้มาอย่างต่อเนื่อง ขอชื่นชมความร่วมแรงร่วมใจของพวกเราทุกๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายเขื่อน สุปัญบุตร นายกสมาคมคนพิการจังหวัดปทุมธานี ที่มานะอุตสาหะ และมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะพัฒนาศักยภาพของคนในสมาคมทั้งยังเปรียบเสมือนศูนย์รวมกำลังใจของสมาชิกสมาคมทุกคน สร้างโอกาสของความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมสุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสมาคมคนพิการจังหวัดปทุมธานี และชุมชนในละแวกนี้ จะสืบสานความตั้งใจ ปณิธานอันแน่วแน่ต่อไปและส่งต่อความสำเร็จนี้ไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานของทุกท่านก้าวย่างต่อไปในอนาคต
ดร.วนิดา กำเนิดเพชร กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า สำนักงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้แทนประเทศไทยกับองค์การสหประชาชาติประเทศไทย FAO องค์การอาหารเกษตรแห่งสหประชาชาติและเราถือว่าทำหน้าที่โค้ชคันทรีเป็นประเทศเจ้าภาพ วันนี้รู้สึกยินดีมากที่ได้มาเยี่ยมชมที่นี่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะสนับสนุนตรงนี้หรือหน่วยงานอื่นก็ยินดีที่จะประสานการทำงาน
นายเชื่อน สุปัญบุตร นายกสมาคมคนพิการปทุมธานี กล่าวว่า วัตถุประสงค์การจัดงานในวันนี้เปิดศูนย์เรียนรู้ให้ นักศึกษา นิสิต ที่สนใจสมาคมคนพิการหรือผู้สูงอายุ และชุมชน มาเรียนรู้การผสมดิน การปลูกผักสลัด ทำยังไง ให้เพื่อนคนพิการเขามาเรียนรู้ในศูนย์ มาดูความเป็นมาของผัก และความเป็นมาของฟาร์มแรกตั้งชื่อความสามารถคนสามารถ ไม่คิดว่าคนพิการทำได้ คนพิการก็ปลูกผักได้ ปลูกผักเกษตรได้ เราพัฒนาหรือเราทำให้เหมาะต่อคนพิการก็สามารถทำปลูกผักได้ นำไปขายได้ด้วย ในการตลาดตอนนี้ตลาดเราขายหน้าฟาร์มเป็นผักสลัด ต่อมาก็มีคนสั่งทางเน็ต และมารับหน้าฟาร์มซึ่งก็สั่งเอาผักชนิดใด ทางฟาร์มก็ปลูกให้ สร้างรายได้ตกเดือนละกว่าหมื่นบาท ก็จะมีการนำเข้ากองทุนสมาคมฯแบ่งปันให้เพื่อนคนพิการ ตอนนี้เรามีสมาชิกสมาคมคนพิการ ประมาณ 200 คน คนพิการจังหวัดปทุมธานีมี 2 หมื่นกว่าคน โดยทางสมาคมฯช่วยเรื่องการเรียน ร้องสิทธิ์ให้คนพิการและส่งเสริมอาชีพคนพิการมีงานทำ ตั้งแต่ปี2563 มหาวิทยาลัยฯ ได้ช่วยเหลือด้านเทศโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกคนพิการเข้าถึงได้โดยใช้การรดน้ำผักเราจะใช้ตั้งอัตโนมัติสั่งผ่านทางมือถือ
นายเขื่อน กล่าวด้วยว่า ความเป็นมา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และสมาคมคนพิการจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ภายในสมาคมฯ ภายใต้ชื่อ “ฟาร์มสามารถ” ให้เป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกผักสลัดอัจฉริยะตามหลัก Universal Design เพื่อส่งเสริมอาชีพคนพิการด้านการเกษตร รวมถึงเป็นพื้นที่ถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานฟื้นฟูศักยภาพคนพิการให้ยืนหยัดได้ด้วยตนเองและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือชุมชนและสังคมคนพิการ ตลอดจนผู้สนใจด้านการทำเกษตรอัจฉริยะ
ในปี 2563 และ 2564 ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์หลักสูตรนิเทศ ศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารการตลาดดิจิทัล และคณะเศรษฐศาสตร์และการลงทุน ร่วมกับสมาคมคนพิการปทุมธานี ได้ดำเนินกิจกรรมร่วมกันในการพัฒนาพื้นที่ของสมาคมฯภายใต้ชื่อโครงการ “ฟาร์มสามารถ” โดยมีเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้กับคนพิการที่เป็นสมาชิกอย่างยั่งยืน โดยในปี 2563 ได้มีการจัดสร้างโรงเรือนปลูกผักสลัดอัจฉริยะ และการฝึกอบรมระบบการจัดการ การดูแลและการบริหารจัดการด้านการซื้อขาย การทำการตลาดที่เหมาะสม และในปี 2564 ได้จัดสร้างร้านกาแฟ เพื่อเป็นสถานที่จำหน่ายผลผลิตต่างๆภายในสมาคมฯ ซึ่งส่งผลให้คนพิการได้มีโอกาสในการพัฒนาทักษะ ด้านการทำงานหาเลี้ยงชีพ และมีโอกาสมีงานทำ ไม่ต้องเป็นภาระของผู้อื่น เป็นไปตามแนวทางและเนื้อความในพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 ได้
นอกจากนั้นแล้วในปี 2565 ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และสมาคมฯ ได้หารือกันและมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้ฟาร์มสามารถแห่งนี้ ได้เป็นพื้นที่เรียนรู้การเกษตรอัจฉริยะแห่งใหม่ในจังหวัดปทุมธานี โดยมีเป้าหมายเปิดพื้นที่เพื่อการสัมมนาเรียนรู้การทำกิจการส่งเสริมอาชีพสำหรับคนพิการภายนอกและผู้สนใจอื่นๆที่สนใจ ตลอด 3 ปีของการดำเนินโครงการ ได้มีภาคีเครือข่ายเข้าให้การสนับสนุนมากมาย เช่น สำนักงานจังหวัดปทุมธานี สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ข้างต้นแล้ว “ฟาร์มสามารถ”ยังได้รับเลือกจาก United nations Food and Agriculture Organization (FAO) เป็น 1 ใน 1000 หมู่บ้านตัวอย่างจากทั่วโลก ที่นำ digital technology มาใช้ในการเกษตร