“จับประเด็นข่าว” ย้อนรอย ปี 2560 ปฐมบทแผนปรับปรุงศาลากลางน่าน (หลังเดิม)
เกาะติดสถานการณ์ – รีรัน “สุรพล เธีนรสูตร” นายกเทศมนตรีเมืองน่าน เมื่อเดือนสิงหาคม2560 กว่า 5 ปีที่ผ่านมา มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นจุดเริ่มต้นโครงการพัฒนาหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่าน และแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก ปรับปรุงศาลากลางจังหวัดน่าน โดยเฉพาะเดิมจะมีการทุบหรือรื้อทิ้งตึก อบจ.หลังเดิมที่อยู่ใกล้เคียง ทำเป็นลานเอนกประสงค์ หรือที่จอดรถใต้ดิน ซึ่งล่าสุดมีความเห็นที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องการก่อสร้างอาคารใหม่ เพื่อรองรับการปรับปรุงศูนย์ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก
วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ติดตามฟังรายการจับประเด็นข่าว FM 100.25 MHz ธนันชัยเรดิโอหรือทางวิทยุออนไลน์ https://www.fungplern.com/tananchai-radio/popup/ หรือทางhttps://apps4.mcot.net/stream695.aac ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 17.10 น. ถึง 18.00 น. ดำเนินรายการ และเจาะลึกข่าวร้อน ทันสถานการณ์ โดย เปี่ยมศักดิ์ แพทยกุล
อย่าพลาด ไม่ฟัง ไม่รู้ แล้วจะคุยกับใครไม่รู้เรื่อง
/////
หมายเหตุ – หลังเกิดกระแสวิพากษ์ – วิจารณ์ การออกแบบก่อสร้างแล้วใครจะเป็นเจ้าของ กรณีอนาคตของศาลากลาง จ.น่าน หลังเก่า เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 เพจประชาสัมพันธ์ จ.น่านได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ชี้แจงถึงกรณีความคืบหน้าในการปรับปรุงอาคารดังกล่าวที่ผ่านมา รวมถึงอนาคตหลังการปรับปรุงเสร็จแล้ว สรุปดังนี้
… “ขอเรียนความคืบหน้าว่า เดิม จ.น่าน และคณะอนุกรรมการพัฒนาเมืองเก่าน่าน ได้ทำประชาคมในเรื่องรูปแบบของห้องนิทรรศการต่างๆ อยู่ในช่วงที่จะดำเนินการ แต่ปรากฏในระยะที่ผ่านมายังมีปัญหาข้อขัดข้องหลายๆ เรื่อง เพราะยังมีปัญหาการบริหารจัดการภายหลังจากการก่อสร้าง
ตามแผนเดิมเราได้มอบหมายให้ อพท. หรือ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พื้นที่ 6 ที่รับผิดชอบเมืองน่าน เป็นหน่วยของบประมาณ จัดซื้อจัดจ้างในการปรับปรุงเป็นงบประมาณผูกพัน 4 ปี จากรัฐบาล หรือเงินภาษีของพี่น้องประชาชน ประมาณปีละ50 ล้านบาท
หลังจากนั้น อพท.จะบริหารจัดการเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นจะส่งมอบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือเทศบาลเมืองน่าน หรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน (อบจ.) เข้ามาบริหารจัดการจ้างเจ้าหน้าที่ จ่ายค่าดูแลรักษาตลอด ซึ่งตรงนั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน หรือยังไม่ได้เตรียมการบริหารจัดการไว้เลย
ต่อมา กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้จังหวัดน่านทราบ ว่าอาคารศาลากลางจังหวัดหลังเดิมดังกล่าว ยังเป็นทรัพย์สินของสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย และได้รับข้อเสนอจากมูลนิธิรักษ์ป่าน่าน จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการดำเนินการให้ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐบาลแม้แต่บาทเดียว
ใช้งบฯ นี้ทั้งหมดประมาณ 600 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องใช้ภาษีของประชาชนประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้นำเสนอรัฐมนตรีฯ ทราบแล้ว จึงแจ้งมาที่จ.น่าน กรณีดังกล่าว เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ยังเป็นทรัพย์สินของทางราชการเหมือนเดิม คือสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้ส่งมอบให้ใคร
จะมีการใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์เดิมตามที่เคยกำหนดไว้ คือเป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมของล้านนาตะวันออก ชุมชนยังใช้ประโยขน์ได้เหมือนเดิม เพียงแต่ภาคเอกชนเสนอตัวจะมาออกค่าใช้จ่ายให้ และทำให้ดีกว่าเดิมที่เคยออกแบบไว้
จ.น่านก็ได้รับนโยบายกระทรวงมหาดไทย จึงนำเรียนในที่ประชุมคณะอนุกรรมการเมืองเก่าน่าน มีผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคประชาสังคมของน่าน ทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับศิลปะวัฒนธรรมอยู่ในนั้นเห็นชอบในหลักการว่า ควรจะปรับเปลี่ยนแนวทางดำเนินการจากเดิม เนื่องจากยังมีปัญหาบริหารจัดการและค่าใช้จ่ายในอนาคต
พอภาคเอกชนเสนอจะออกค่าใช้จ่ายให้ โดยเงื่อนไขดังกล่าว ไม่ได้ยกให้ทางมูลนิธิรักษ์ป่าน่านแต่อย่างใด เป็นข้อเสนอที่ดี เพราะนอกจากช่วยค่าจ่ายการปรับปรุงให้ 600 ล้านบาทแล้วอนาคตยังจะออกค่าบริหารจัดการให้ด้วย ตั้งงบฯ อีก ประมาณ 100 ล้านบาทในช่วงเบื้องต้นระยะเวลา 10 ปีแรก
เมื่อทำเสร็จแล้วทรัพย์สิน และใช้ประโยชน์ยังเหมือนเดิม ตามที่ประชาคมน่านได้เคยเห็นชอบไว้ เพียงแต่เพิ่มงบฯ ให้มากขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมตะวันออกนี้ เป็นต้นแบบที่ได้ระดับมาตรฐานสากล เพราะฉะนั้นจะต้องพูดคุยกันในรายละเอียดของแบบ
ขณะนี้อยู่ในระหว่างทางมูลนิธิฯ นำโจทย์เดิมจากที่ประชาคมได้เคยเห็นชอบ และเดิมที่เคยออกแบบไว้แล้ว มาดูรายละเอียดเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมให้ครบถ้วนและเหมาะสม แล้วจะนำแบบนี้มาให้ประชาคมเมืองน่าน มารับฟังความคิดเห็น และขอความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการเมืองเก่าน่านอีกครั้ง
จะถือเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวเมืองน่านอย่างยิ่ง ดูน้อยลง
