ภูมิภาค

ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานจิตอาสาพระราชทาน

พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 29 มีนาคม 2565  เวลา 09.00 .นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับ พลเรือเอก ปวิตร รุจิเทศ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และคณะในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานจิตอาสาพระราชทานพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ อ่างเก็บน้ำหนองช้างใหญ่ ตำบลหนองช้างใหญ่อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรับการบรรยายสรุป การดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดอุบลราชธานี  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี  บรรยายสรุปการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดอุบลราชธานี

และบรรยายสรุปการดำเนินการจิตอาสาภาคประชาชน โดยนายสรภพ พูลเพิ่ม ประธานกลุ่มSaveUbon

อ่างเก็บน้ำหนองช้างใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานีเพื่อรับฟังบรรยายสรุป

ทั้งนี้จังหวัดอุบลราชธานี ดำเนินงานศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดอุบลราชธานี  ดำเนินกิจกรรมจิตอาสา รวมทั้งสิ้นจำนวน 270 โครงการ ประกอบด้วยจิตอาสาพัฒนา จำนวน108 โครงการ  จิตอาสาภัยพิบัติ จำนวน 83 โครงการ จิตอาสาสนับสนุนงบประมาณให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชานแดน ใช้สำหรับดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามพระราชดำริ บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 จำนวน 6 แห่ง ละ 1,๐๐๐ บาท  โครงการฟาร์มตัวอย่าง ต้านภัยโควิด-19 (กิจกรรมโคก หนอง นา โมเดล ฟาร์มตัวอย่างตามแนวพระราชดำริ บ้านยางน้อย ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี)  จิตอาสาเฉพาะกิจ จำนวน 79 โครงการ จิตอาสาภาคประชาชน ช่วยเหลือผู้ ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย  กิจกรรมจิตอาสา มีแล้วแบ่งปัน รับบริจาคสิ่งของคนอุบล รวมพลังสู้ภัยโควิด ไปด้วยกันสำหรับบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 นอกจากนี้จังหวัดอุบลราชธานี มีแผนในการรวบรวมจิต อาสาภาคประชาชน ให้เป็นกลุ่มเพื่อเพิ่ม ศักยภาพในการป้องกันและบรรเทา ความเดือนร้อน ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติโดยมีกลุ่ม Save Ubon เป็นแกนนำ

ส่วนการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และการแก้ไขภัยแล้งของจังหวัดอุบลราชธานี การบริหารจัดการน้ำจังหวัดอุบลราชธานี ยึดแนวทางตามนโยบายของกรมชลประทานมาเป็นหลักปฏิบัติ ในการบริหารจัดการอุทกภัย ต้นเก็บ กลางชะลอ ปลายระบาย โดยมีการบูรณาการการจัดการน้ำร่วมกับสำนักงานชลประทานที่อยู่ต้นน้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งสายมูล และสายชี ให้มีการกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนสายต่างๆที่อยู่ต้นน้ำให้มากที่สุดในช่วงน้ำหลาก รวมถึงมีเขื่อนระบายน้ำในลำน้ำชี และน้ำมูล มีการชะลอ / หน่วงน้ำ รวมถึงระบายน้ำในอัตราที่เหมาะสมตามช่วงเวลา เพื่อให้จังหวัดอุบลราชธานีมีเวลาเตรียมการแจ้งเตือน สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้อย่างทันสถานการณ์ หากเกิดกรณีวิกฤต รวมทั้งจังหวัดอุบลราชธานียังได้มีการเร่งผลักดันน้ำออกสู่แม่น้ำโขงให้เร็วที่สุดผ่านเครื่องผลักดันน้ำที่ได้จัดเตรียมไว้

การบริหารจัดการภัยแล้ง ได้มีการวางแผนจัดสรรน้ำอย่างเหมาะสม โดยยึดลำดับความสำคัญของประเภทการใช้น้ำตามแนวทางของกรมชลประทาน ได้แก่ 1. น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค 2. นำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ 3. น้ำเพื่อการเกษตร และ4. น้ำเพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอื่นๆโดยมีการวางแผนการใช้น้ำและบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จากอ่างเก็บน้ำในความรับผิดชอบจำนวน 13 แห่ง ความจุรวมประมาณ 130 ล้าน  ลบ.. รวมทั้งยังประสานความร่วมมือกับจังหวัดตอนบนของน้ำมูลและชี ให้มีการระบายน้ำลงมาสู่จังหวัดอุบลราชธานีอย่างเหมาะสม และประสานความร่วมมือกับ กฟผ. การประปาส่วนภูมิภาค และผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อบริหารจัดการเขื่อนปากมูลให้มีระดับน้ำและการกักเก็บน้ำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ลดข้อขัดแย้งด้านน้ำในพื้นที่

จากนั้น เวลา 11.00 . คณะได้ลงพื้นที่รับฟังบรรยายสรุป โครงการการจัดการน้ำตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” (ธนาคารน้ำใต้ดิน) โดย นายธนัท  ชายทวี นายอำเภอสว่างวีระวงศ์ ที่ว่าการอำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี

สุมาลี สมเสนาะ/ข่าว ศรีสมร บุญวิจิตร/ภาพ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า