เครือข่ายภาคประชาชนหลายสิบคนเดินทางเข้าให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สำนึกศิลปากรที่ 11 สงขลากรณีถูกอิทธิพลมืดข่มขู่
รวมถึงขอบคุณในการร่วมรักษาโบราณสถานเขาแดงเอาไว้ ในขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหาแล้ว 1 ราย
ตัวแทนเครือข่ายประชาชนในจังหวัดสงขลา รวมถึงตัวแทนนักศึกษา 3 สถาบัน รวมตัวกันนำพระเครื่อง ดอกไม้ และกระเช้า เข้าให้กำลังใจ นายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลารวมถึงเจ้าหน้าที่ กรณีเข้าแจ้งความกับกลุ่มผู้บุกรุกโบราณสถานเขาแดง ที่มีการบุกรุกต่อเนื่องนานนับสิบปี ล่าสุดนั้นมีการแผ้วถาง ตัดถนนหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่กรมศิลป์ถูกข่มขู่โดยมีผู้มีอิทธิพลแล้วหลายครั้ง ภาคประชาชนยืนยันจะร่วมปกป้องโบราณสถานรวมถึงข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรง
ในส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร ระบุว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมออกหมายเรียก นายสมบัติ เหาตะวณิชย์ ซึ่งมีที่ดินอยู่บริเวณด้านล่างของเขา และต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยนายสมบัติ ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อวานนี้(3มีนาคม)ยอมรับว่า เป็นผู้ว่าจ้างรถแบคโฮร์ ขึ้นไปทำการขุดตัดทำถนน บริเวณเขาแดง เพื่อต้องการให้ประชาชนในพื้นที่รวมถึงผู้ต้องการขึ้นไปสักการะเจดีย์องค์ดำ–องค์ขาว ทำได้สะดวกมากขึ้น โดยได้ว่าจ้างรถขุดตักวันละ 10,000บาท รวม 11 วัน จึงแล้วเสร็จเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาบุกรุกโบราณสถาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีนี้นั้นแยกออกเป็น 3 คดี คดีแรกคือจุดที่ทำการขุดตัดไม้ทำถนนซึ่งได้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว คือนายสมบัติ
คดีที่ 2 คือที่ ป้อม 9 ตรงภูเขาน้อย ที่อยู่ด้านตรงข้ามกับเขาแดง ซึ่งมีการขุดตัดถนน ระยะ 200 เมตร ขนานกับเจดีย์เขาน้อย และถนนที่ขุดตัดนั้นห่างจากฐานเจดีย์เขาน้อยเพียง 60 เมตร ซึ่งมีความเสี่ยงที่ฐานเจดีย์จะทรุดตัวลงมาหากมีฝนตกหนัก ในจุดนี้นั้น เจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำ ซึ่งในจุดนี้นั้นในทางการสอบสวนนั้นชัดเจนว่าเป็นฝีมือของภรรยาอดีตนักการเมืองรายหนึ่งในพื้นที่
คดีที่ 3 คือการทุบทำลาย โบราณสถานเจดีย์องค์ดำ–องค์ขาวบนยอดเขาแดง ซึ่งพบร่อยรอยการทำลายบริเวณฐาน คาดเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการหาของมีค่าใต้ฐานเจดีย์ โดยล่าสุดนั้นได้ืทำการบุรณะซ่อมแซมแล้ว