“ทวี สอดส่อง” ขอสงวนมาตรา 70 ประเด็นแต่งตั้ง ผบ.ตร.ให้ยึดอาวุโสพร้อมความรู้ความสามารถ เพื่ออนาคตขององค์กรตำรวจได้ “ผู้นำที่ดี”
การประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มิ.ย.2565 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปรายตอนหนึ่งว่า อยากจะสงวนในมาตรา 70 คือ การแต่งตั้งข้าราชการดำรงตำแหน่งตามมาตรา 69 วรรค 1 คือ ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร.
พ.ต.อ.ทวี เห็นว่าต้องยึดตามรัฐธรรมนูญ คือจะต้องมีคุณสมบัติ โดยเฉพาะยึดหลักอาวุโส และหลักความรู้ความสามารถประกอบกัน ซึ่งก็ตรงตามที่เสนอ วันนี้เราแบ่งสายงานตำรวจออกเป็น5 สายงาน แต่ละสายงานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน คนที่ไม่ได้เป็นตำรวจอาจจะมองว่า ตำรวจมีแค่งานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปรามเท่านั้น
ในความเป็นจริงการเป็นผู้ค้นหาความจริงในหน้าที่ของตำรวจ 1.หนีไม่พ้นต้องมีเรื่องของเทคนิคการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นศาสตร์ชนิดหนึ่ง 2.ต้องมีเทคนิคและความรู้ทางด้านการพิสูจน์หลักฐาน หรือทางเทคนิคที่อยู่ในกลุ่มสายงานพิสูจน์หลักฐาน และ 3.ต้องเข้าใจกระบวนการของกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการคุ้มครองสิทธิ
“พอเราเขียนล็อกไว้เช่นนี้ คนที่จะไปเป็น ผบ.ตร.โดยให้คำนึงถึง ก็จะคำนึงถึงอย่างเดียว จะมองไม่เห็นคนกลุ่มอื่น อันนี้เป็นสิ่งที่อยากให้ปรากฎไว้ว่า เพื่อจะเปิดโอกาสให้ข้าราชการตำรวจที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นผู้นำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
พ.ต.อ.ทวี อภิปรายต่อว่า ประการที่ 2 ที่ต้องให้ยึด 2 หลัก ก็คือหลักอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน เป็นเพราะรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของดัชนีในการจะวัดเรื่องอาวุโส ถ้าจะมองให้ดีก็เหมือนว่า ผลดีของอาวุโสยิ่งรับราชการมานาน ยิ่งมีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ยิ่งสูงขึ้น ยิ่งมีการวินิจฉัยสั่งการดีขึ้น มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น รวมทั้งทำงานร่วมกับบุคคลอื่นคล่องแคล่วขึ้น นี่คือความอาวุโส
แต่ผลเสียของความอาวุโสก็คือ ยิ่งรับราชการมานาน บางคนยิ่งลดแรงลง บางคนยิ่งลดความกระตือรือล้นในการทำงาน บางคนยิ่งลดความริเริ่มสร้างสรรค์ บางคนยิ่งลดความสนใจในงานแต่สนใจตัวเองมากเกินไปก็มี บางคนยิ่งลดความรับผิดชอบ บางคนทำตัวแค่เซ็นผ่านงานเท่านั้น คือเหรียญมีสองด้านเสมอ จึงอยากให้ประกอบกับเรื่องความรู้ความสามารถ
“ต้องให้คำนึงถึงประวัติการเข้ารับราชการ สิ่งที่สะสมมาเป็นประสบการณ์ในอดีต การเล่าเรียนความสามารถในการปฏิบัติ ความเชี่ยวชาญ และผลการประเมินการปฏิบัติ สิ่งนี้ไม่เฉพาะตำแหน่ง ผบ.ตร. เราควรล็อกไว้ทุกตำแหน่ง อย่าไปกำหนดเลยว่า 33% หรือ 50% ต้องอาวุโสหมด เราเปิดโอกาสให้สังคม”
“วันนี้ CEO ของเอกชนบางทีอายุไม่เกิน 35 ปี ผมคิดว่าตำรวจเป็นหน่วยงานที่ต้องอยู่กับสังคมและจะต้องมีภาวะผู้นำ จุดเริ่มต้นของตำรวจคือ จะต้องมีหลักประกันเรื่องการที่จะได้ผู้นำที่ดี ก็จะหนีไม่พ้น 2 องค์ประกอบคือ เป็นผู้อาวุโส และเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ผมจึงอยากจะขอสงวนคำแปรญัตติมาตรา 70 ไว้ และอย่างน้อยที่สุดจะได้เป็นการบันทึกไว้”
