กองทัพไทยจัดพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
วันที่ 25 เมษายน 2565 เวลา 06.30 น. พลเอก นเรนทร์ สิริภูบาล รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราชประจำปี 2565 ณ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ซึ่งพิธีจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19 )
ในการจัดพิธีครั้งนี้เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ โดยมีการจัดพิธีที่สำคัญ ได้แก่ พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน
ประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชา กับพระวิสุทธิกษัตรีย์ สมภพเมื่อปี พ.ศ. 2098 ณ พระราช วังจันทร์ เมืองพิษณุโลก เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ต้องเสด็จไปประทับ ณ กรุงหงสาวดีและได้เสด็จกลับสู่กรุงศรีอยุธยา เมื่อพระชนมายุได้15 พรรษาจากการที่พระองค์กระทำศึกหลายครั้ง ทรงแสดงให้ประจักษ์ในความเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และเปี่ยมด้วยพระวิริยะอุตสาหะ จนเป็นที่เกรงขามของข้าศึกศัตรูครั้นเมื่อพระชนมายุได้35 พรรษาได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ และมีการศึกที่สำคัญคือทรงกระทำยุทธหัตถี มีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชแห่งกรุงหงสาวดี กรุงศรีอยุธยาจึงมีความมั่นคงปราศจากการรุกรานจากข้าศึก ในปี 2148 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพไปตีเมืองอังวะระหว่างการเดินทัพทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคต ณ เมืองหาง ขณะพระชนมายุได้ 50 พรรษา
เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เหล่าข้าราชการกองบัญชาการกองทัพไทยทุกนาย ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ โดยจะขอสละประโยชน์สุขส่วนตัวเพื่อดำรงไว้ซึ่งเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมตระหนัก สำนึก ในเกียรติภูมิของชาติมุ่งมั่นสร้างสรรค์คุณประโยชน์ และเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ตลอดไป
