เศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว

กระทรวงการต่างประเทศเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดอ่องเหม่โป่งตาชาน กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

วันที่ 27 ตุลาคม 2567 นายดุสิต เมนะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในการเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทอดถวาย ณ วัดอ่องเหม่โป่งตาชาน กรุงย่างกุ้ง โดยพระภัททันตะสุนทรมหาเถระ เจ้าอาวาสวัดอ่องเหม่โป่งตาซาน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพระอาจารย์ ดร. คำหมาย ธัมมสามิ หรือ Oxford Sayadaw ร่วมในพิธีในครั้งนี้

พิธีดังกล่าวมีนายมงคล วิศิษฏ์สตัมภ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง นายปาณิดล ปัจฉิมสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ นายวรพันธุ์ ศรีวรนารถ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนภาคเอกชนและชุมชนไทยในเมียนมา รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติฝ่ายเมียนมา อาทิ U Nyunt Swe อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา และ U Myint Zaw Win รองอธิบดีกระทรวงกิจการศาสนาและวัฒนธรรม เมียนมา ตลอดจนเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำเมียนมา

เข้าร่วมการเชิญผ้ากฐินพระราชทานในครั้งนี้สามารถรวบรวมเงินบริจาค ซึ่งประกอบด้วยเงินบำรุงพระอารามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เงินบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลจากกระทรวงการต่างประเทศ และผู้มีจิตศรัทธาชาวไทยและชาวเมียนมา จำนวน 348,100 บาท กับอีก 210 ดอลลาร์สหรัฐ และ  25,475,500 จั๊ต (รวมทั้งสิ้นประมาณ 763,580 บาท)

วัดอ่องเหม่โป่งตาชานก่อตั้งขึ้นในปี 2384 โดย U Yae ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการวัดคนแรก ได้รับพระราชทานที่ดินขนาด 9.078 เอเคอร์ จากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ภายในวัดมีอาคารทั้งหมด 15 หลัง รวมถึงพระอุโบสถ 2 ชั้น สำหรับใช้เป็นสถานที่จัดพิธี โดยชั้นบนของพระอุโบสถมีพระประธาน ทำด้วยไม้ไผ่ ประดิษฐานอยู่

กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินโครงการเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดพุทธศาสนาในต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2538 และในปี 2567 นี้ได้รับการเห็นชอบจากรัฐบาลเป็นโครงการร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ โดยจัดพิธีใน 9 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สปป.ลาว เมียนมา อินเดีย กัมพูชา เวียดนาม ศรีลังกา มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ พุทธศาสนิกชนต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงทำนุบำรุงพระบวรพุทธศาสนา นอกจากนี้ โครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการทูตวัฒนธรรม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะระดับประชาชนสู่ประชาชนให้แน่นแฟ้นและใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า