ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รพ.สนาม มธ.โพสต์ผ่านเพจเฟสบุ๊กระบุ ให้ระวัง เวฟ 5 กลับมาโจมตีได้ง่ายและเร็วเกินไปนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รพ.สนาม มธ.โพสต์ผ่านเพจเฟสบุ๊กระบุ ให้ระวัง เวฟ 5 กลับมาโจมตีได้ง่ายและเร็วเกินไปนัก จะต้องระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น และยังต้องเข้มงวดกับการใส่หน้ากาก ล้างมือและรักษาระยะห่างให้มากขึ้นจากที่เราเริ่ม “สบาย สบาย “กันมากแล้วในปัจจุบัน
เพื่อไม่ให้เวฟที่ห้ากลับมาโจมตีพวกเราได้ง่ายและเร็วเกินไปนัก วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม วันที่ 141 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิตและวันที่ 122 ของศูนย์ธรรมศาสตร์ Home Isolation
วันนี้เราไม่ได้รายงานเรื่องจำนวนวัน ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์อีกแล้ว เพราะตัวเลขนับจำนวนวันได้จบลงที่ 200 วันแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อรมช.สาธารณสุขในฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรีได้ประกาศยุติการดำเนินงานของรพ.สนามธรรมศาสตร์และผู้ป่วยที่เหลือเพียงเล็กน้อยได้ถูกส่งต่อไปยังรพ.สนามอื่นหรือรพ.ธรรมศาสตร์เองเป็นที่เรียบร้อย ทิ้งให้ประวัติการทำงานในสมรภูมิโควิดเวฟที่สามและสี่จำนวนสองร้อยวันนี้ เป็นประวัติศาสตร์ส่วนเสี้ยวเล็ก ๆ ของการรับใช้ ช่วยเหลือดูแลประชาชน และรับใช้สังคมไทยของมหาวิทยาลัยแห่งนี้สืบต่อไป
บทบาทและภารกิจในเรื่องโควิดที่ลดลงและสถานการณ์ที่ผู้ป่วยโควิดในกทม.และปริมณฑลก็ลดลงอยู่เรื่อย ๆนี้ ทำให้การรายงานสถานการณ์โควิดของรพ.ธรรมศาสตร์อาจจะมีความจำเป็นน้อยลงตามไปด้วย ดังนั้น ต่อจากนี้ไปพวกเราจะมา update และรายงานสถานการณ์โควิดของธรรมศาสตร์ให้ทราบเพียงสัปดาห์ละครั้ง ก็น่าจะเหมาะสม ต่อจากนี้ไป พวกเราจะมาพบกันในทุก ๆค่ำวันจันทร์ สัปดาห์ละหนแล้วละนะ
ขอรายงานตัวเลขผู้ป่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโควิดในธรรมศาสตร์ให้ทราบเพื่อยืนยันสถานการณ์”ขาลง”อีกครั้งหนึ่งว่า เช้าวันนี้เรามีผลตรวจ RT-PCR เป็นบวกเพียง 4 รายจากผู้มารับการตรวจ 156 คน นับเป็นสถิติผลบวกต่ำสุดวันหนึ่งในรอบหลายเดือนมานี้จำนวนผู้ป่วยโควิดทั้งหมดที่นอนรักษาตัวในรพ.ธรรมศาสตร์มีทั้งสิ้น 35 ราย จากจำนวนเตียง 116 เตียงโควิดที่พวกเราเตรียมไว้ ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยเคสสีแดง เหลืออีกเพียงสองรายเท่านั้น
สำหรับ Home Isolation วันที่ 122 เมื่อวานนี้มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มเข้ามาให้ดูแลรักษาอีกเพียงรายเดียว ทำให้เรามีผู้ป่วยแอคทีฟเหลือเพียง 43 เคส และมีจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมดมาตั้งแต่ต้นของโครงการนี้ รวม 2,481 คน
ที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ รังสิต ที่ยิม4 วันนี้เป็นวันที่พวกเราให้วัคซีนเป็นวันที่ 141 เมื่อวานมีผู้มารับวัคซีน Astra เข็มที่สองทั้งหมดรวมจำนวน 2,483 คน จากคิวที่นัดไว้2,658 คน คิดเป็น 93.42% ขณะนี้เราไม่มีคิวนัดหมาย Astra เข็มแรกที่ยิม 4 อีกแล้วนะจากนี้ต่อไปประมาณอีกสองเดือน ผู้ที่มารับวัคซีนทั้งหมดที่ยิม 4 ล้วนแต่จะเป็นคิวรับAstra เข็มที่สองทั้งสิ้น ดังนั้น การบริหารจัดการให้วัคซีนมีเพียงพอ และเป็นไปตามวันนัด จึงน่าจะมีปัญหาน้อยลงกว่าเดิมแล้วล่ะ เพราะเข็มที่สองทุกรายมีชื่ออยู่ในทะเบียนของ #หมอพร้อม ทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าท่านจะได้รับวัคซีน Astra เข็มแรกมาจากการจัดสรรจากหน่วยงานใดก็ตาม
วันนี้ จำนวนผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทั่วประเทศลดลงเหลือจำนวนเพียง 8,674 รายและมีผู้เสียชีวิตรวม 44 ราย ทำให้ตัวเลขเฉลี่ยของผู้ป่วยโควิดรายใหม่ของประเทศในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง เหลือเพียงเฉลี่ย 9,332 คนต่อวันเท่านั้น นับว่าเป็นตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่โดยเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดในระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา นี่อาจจะเป็นข่าวดีที่สอดคล้องก้บสถานการณ์การเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาลได้กระมัง
แต่ข่าวดีเรื่องจำนวนผู้ป่วยใหม่นี้ ก็ต้องพิจารณาด้วยความระมัดระวังอยู่ด้วยเหมือนกันนะ เพราะการนับจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่ประกาศกันทุกเช้านี้ ระบุชัดเจนว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันเหล่านี้ นับจากการตรวจ RT-PCR เท่านั้น ไม่ได้นับรวมจากการตรวจ ATK ด้วย และถ้าเหลือบดูการแถลงข่าวของศบค.ก็จะพบว่าตัวเลขการตรวจ ATK แล้วมีผลเป็นบวก ซึ่งไม่ได้เอามารวมในประกาศตัวเลขผู้ป่วยใหม่รายวัน ของวันนี้ ก็จะพบว่ามีมากถึงเกือบสี่พันราย ซึ่งควรจะต้องบวกไปด้วย แต่ก็ไม่ได้บวกเข้าไปในการนับจำนวนผู้ป่วยใหม่
คำอธิบายเดิมที่ไม่ได้เอาจำนวนผู้ป่วยใหม่จาก ATK มาบวกด้วย เพราะอาจจะไม่แน่ใจ100% ว่าผลบวกจะถูกต้องไหม ก็พอรับฟังได้ แต่สัดส่วนการเป็นบวกเมื่อตรวจด้วย RT-PCR ซ้ำ ซึ่งก็อาจมีถึง 70-80% เลยนะ ก็คงทำให้พวกเราต้องไตร่ตรองให้มากขึ้นอีกทั้งเหตุผลที่ว่า เดิมเราเคยนับแต่กลุ่มบวกจาก RT-PCR เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นมาตั้งแต่เริ่มต้นการระบาด จนขณะนี้ ก็ยังนับจำนวนกลุ่มเดียวตามแบบเดิมอยู่ ก็คงพอรับฟังได้อยู่หรอก แต่วันนี้ เมื่อมีชุดตรวจ ATK ที่เพิ่งนำเข้ามาใช้กันทั่วไปอย่างแพร่หลายและน่าเชื่อถือ ทั้งที่ใช้ตรวจตัวเอง และเป็น Professional use ด้วย ก็เลยทำให้มีคำถามตามมาว่า ถ้าเรานับเฉพาะเคสบวกจาก RT-PCR อย่างเดียวเช่นเดิมแบบนี้
แล้ววันนี้ ถ้ามีคนสงสัยว่าจะติดโควิด จะมีสักกี่รายที่ตรงไปตรวจ RT-PCR ในโรงพยาบาล? คนส่วนใหญ่คงไปทดลองตรวจด้วย ATK ซึ่งตรวจง่ายกว่า ราคาถูกกว่าและรวดเร็วกว่าทั้งนั้น แล้วเมื่อตรวจเสร็จ พบว่ามีผลบวก ก็อาจไปเข้า Home Isolation หรือ Community Isolation เลย โดยไม่มาตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกก็ได้ ดังนั้น ถ้าในวันนี้ที่เรามีการใช้ ATK กันแพร่หลายแล้ว จำนวนผู้ป่วยโควิดรายใหม่จริง ๆ ควรจะต้องเอาผลบวกที่มาจากการตรวจทั้งสองประเภทมารวมกันหรือเปล่า และถ้าเอามารวมกันนับจริง ตัวเลขการมีผลบวกทั้งสองประเภทของวันนี้ก็จะอยู่ที่มากกว่า 13,000คน สำหรับ25 ตุลาคมด้วยนะ ถ้าตัวเลขเป็นเช่นนี้ พวกเราจะตกอกตกใจกันแค่ไหน และมีทัศนะอย่างไรต่อการผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆดังที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้บ้างนะ
คำถามนี้เป็นคำถามและเป็นข้อสังเกต ที่จะทำให้พวกเราต้องคิดและไตร่ตรองเรื่องการระบาดและการรับมือการระบาดโควิดในมุมที่ทุกๆคนจะต้องระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น และยังต้องเข้มงวดกับการใส่หน้ากาก ล้างมือและรักษาระยะห่างให้มากขึ้นจากที่เราเริ่ม “สบาย สบาย “กันมากแล้วในปัจจุบัน
เพื่อไม่ให้เวฟที่ห้ากลับมาโจมตีพวกเราได้ง่ายและเร็วเกินไปนัก จากความประมาทว่าการระบาดรอบใหญ่ได้ผ่านไปแล้ว เหมือนกับที่หลายภาคส่วนเริ่มมีความรู้สึกกันอยู่ในขณะนี้ อยากให้ตระหนักว่า Delta ยังไม่ได้ไปไหน เรายังมีไวรัสมฤตยูนี้อยู่รอบๆตัวพร้อมจะโจมตีและเอาเราเป็นเหยื่อ ให้เราต้องเข้าแอดมิทในโรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเมื่อพวกเราพลั้งเผลอ หรือประมาทนะ แม้ว่าจะมีการคลายล็อค ยกเลิกมาตรการควบคุมต่างๆไปมากแล้วก็ตาม #แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ