สังคม-สตรี-เยาวชน

สองสาวเหยื่อทารุณกรรมร้อง “ปวีณา” ขอช่วยเหลือติดตามคดี เรียกร้องความเป็นธรรม

รายแรกภรรยาตำรวจรายหนึ่ง สุดทนพฤติกรรมสามีสองบุคลิก ชอบใช้ความรุนแรงถึงขั้นปืนจ่อศีรษะ ต้องการหย่าแยกทางหวั่นเป็นอันตรายถึงชีวิต อีกรายสาวอินฟลูเอนเซอร์ตั้งครรภ์ 3 เดือน ถูกอดีตแฟนตามทำร้ายร่างกายถึง 17 ครั้ง แม้เคยถูกศาลสั่งติดกำไลอีเอ็มแต่ไม่เข็ดหลาบยังตามระรานทำร้ายร่างกายพยายามให้แท้งลูก

..ซี (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี เซลล์บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ภรรยานายดาบตำรวจ อายุ37 ปี สังกัดสน.แห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ แจ้งว่า อยู่กินกับสามีมา 3 ปี จดทะเบียนสมรสกันที่ผ่านมาสามีคล้ายเป็นคนสองบุคลิก เวลาหงุดหงิดโมโหจะอารมณ์ร้าย เวลาอารมณ์ดีก็จะดีมาก เมื่อพูดจาขัดใจก็จะทำร้ายตบตีกว่า 10 ครั้งมาแล้ว

ล่าสุดวันที่ 22 ..ที่ผ่านมา สามีไม่พอใจเพราะจะทาสีห้อง แต่ตนขอให้ไปทาวันที่ตนไม่อยู่เพราะวันนี้จะขอนอนพักเพราะเป็นวันหยุดของตน และต้องทำงานถึง 6 วันต่อหนึ่งสัปดาห์จึงอยากพักผ่อน แต่สามีก็ไม่พอใจขึ้นเสียงดุด่าและเอาแปรงทาสีมาฟาดที่แขนตบตี เตะตามลำตัวจนตนล้มลงบนที่นอน ก่อนที่สามีจะขึ้นคร่อมและบีบคอง้างมือจะใช้ปืนตบหน้า ตนกลัวมากนาทีนั้นต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิตจึงรอดมาได้ ที่ผ่านมาสามีก็เคยใช้ปืนยิงเฉียดหูมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ตนต้องการแยกทางเพราะกลัวว่าชีวิตจะไม่ปลอดภัย ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย       

อีกราย ..เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี อาชีพอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 3 เดือนแจ้งว่า รู้จักกับนายบี (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ทางเฟซบุ๊กและได้คบหาเป็นแฟนตั้งแต่ปลายปี 64 ที่ผ่านมานายบีไม่ยอมทำงานและขอเงินตนใช้ ตลอดเวลานายบีมักมีอารมณ์รุนแรงเมื่อไม่พอใจก็จะตบตี ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 ..64 ทะเลาะกันเรื่องแมวของนายบีที่ไปทำความเสียหายในห้องพักโรงแรมก่อนจะเกิดการโต้เถียงกัน นายบีทำร้ายร่างกายตนจนบอบช้ำตั้งตัว หน้าตาบวมปูด

ต่อมาช่วงวันที่ 14 ..-25 ..65 นับเป็นการทำร้ายครั้งที่ 2-9 ต่อเนื่องกัน ระหว่างที่อาศัยอยู่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ .ชลบุรี นายบีต่อยหน้าตบตี มีครั้งหนึ่งกระทำถึงขั้นสลบไป และพ่อตนได้พาไปแจ้งความ ต่อมาวันที่ 11 ..65 ศาลสั่งจำคุกนายบี 1 ปี 4 เดือน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้ติดกำไลอีเอ็มจากนั้นนายบีก็มาง้องอนขอคืนดี สัญญาจะไม่ทำอีก และไปไหว้ขอขมาพ่อ ตนจึงใจอ่อนยอมอภัยและขอแถลงต่อศาลให้ถอดกำไลอีเอ็มก่อนกำหนด

หลังนายบีได้ถอดกำไลอีเอ็ม ก็อ้อนวอนให้ตนไปถอนแจ้งความคดีทำร้ายร่างกายอีกหลายท้องที่ แต่ตนก็ทำทีไปโรงพักแต่ก็ไม่ได้ไปถอนแจ้งความ พอนายบีเข้าใจว่าตนถอนแจ้งความแล้วทีนี้นิสัยเดิมก็ออก เวลาที่ตนไปทำงานที่ไหนนายบีก็จะตามไปด้วยและมักจะแสดงอาการหึงหวง และพอเวลาที่ตนไม่ให้เงินใช้ก็จะโมโหทำร้ายร่างกาย

ช่วงเดือนพ..-..65 นายบีได้ทำร้ายร่างกายตนเป็นครั้งที่ 10-17 และยังข่มขู่บังคับให้ออกไปเจอเพื่อมีเพศสัมพันธ์กัน จนกระทั่งวันที่ 13 ..65 ตนรู้ตัวว่าตั้งครรภ์จึงพยายามปกปิดและต้องการจะเลิกราเพราะติดว่าเลี้ยงลูกคนเดียวได้ แต่นายบีสืบรู้ว่าตนตั้งครรภ์และพยายามจะขอเงินตนใช้อีก เมื่อไม่ได้เงินก็จะทำร้ายร่างกายตนทุกครั้งนอกจากนี้ยังมีการโพสต์ประจานและข่มขู่ฆ่าพ่อแม่ทำให้ตนเกรงว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย  ล่าสุดวันที่ 23 ..65 นายบีได้ทำร้ายร่างกายตน เหตุเกิดย่านรามคำแหง2 และได้แจ้งความไว้ที่สน.อุดมสุข ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ถึงที่สุด

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ดำเนินการช่วยเหลือดังนี้

เคสที่ 1 ถูกสามีเป็นตำรวจทำร้าย วันที่ 25 .. ได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายไปแจ้งความที่สน.บางเขน และได้ประสาน พล...อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก..2 และพ...เรวัตร จิตรเอื้อ ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก..2 รักษาราชการแทน  ผกก.สน.โคกคราม และให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายไปพบ เพื่อดำเนินการสอบสวนทางด้านวินัยกับตำรวจนายดังกล่าว

เคสที่ 2 วันที่ 25 .. ได้ประสาน ...ปณิธิ ชาอุ่น ผกก.สน.อุดมสุข ให้น..เอ ไปพบและสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อติดตามคดี เนื่องจากผู้กระทำผิดเคยต้องคดีทำร้ายร่างกายและถูกศาลสั่งจำคุก 1 ปี 4 เดือน โดยให้รอลงอาญา แต่ยังมากระทำผิดซ้ำผิดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงขอให้มีการดำเนินคดีโดยเร็ว

นางปวีณา กล่าวว่า สถิติทารุณกรรม/ ทำร้ายร่างกาย ตั้งแต่วันที่ 4 .. – 23 .. 65 มีมากถึง 886 ราย เนื่องจากองค์การสหประชาชาติประกาศให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากลและคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 เห็นชอบให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีขอเชิญชวนพลังประชาชนทุกคนร่วมรณรงค์เรียกร้องยุติความรุนแรงต่อสตรีทุกรูปแบบ” 2 เคสนี้เป็นตัวอย่างความรุนแรงต่อสตรี ซึ่งไม่สมควรเกิดขึ้นกับผู้หญิงทุกคน มูลนิธิปวีณาฯ จะให้ความเป็นธรรมและติดตามคดีอย่างใกล้ชิดต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า