ย้ำหลังปิดดีล 3 แขวงลาว ลั่นเชิญ VIP มายกระดับงานพัฒนา – เศรษฐกิจ – ท่องเที่ยว
“ประธานศรีรุ่ง” ฟาดแรง ความสำเร็จสะพานปากนาย – อ่างเก็บน้ำ – ด่านห้วยโก๋น ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ “แผนนิ่ง” แต่ทุกฝ่ายช่วยกันผลักดัน เผยหลังจบเจรจาการค้า – ท่องเที่ยว 3 แขวงลาวแล้ว จะเชิญนายกฯ – “ผู้กองธรรมนัส” พรรคเศรษฐกิจไทยมาจัดงานยิ่งใหญ่กว่านี้
เผย MASTER PLAN หอการค้าเหนือตอนบน 2 จัดโปรดึงท่องเที่ยว – สินค้าส่งออก “ประธานหอค้าน่าน” เคลียร์หน้าด่านห้วยโก๋นลงตัวหมดแล้ว โดยเฉพาะอลังการ์งานสร้างชิ้นแรกคือ “ซุ้มประตูใหม่” จะมีถึง 4 ช่องจราจร ทุ่มงบฯ กว่า 30 ล้านบาท แต่ยังอุบอุปสรรคล่าช้าไปอีก 2 ปี เพราะงบฯ ไม่เพียงพอ ต้องไปขอจากสภาพัฒน์
นายศรีรุ่ง รัตนศิลา ประธานหอการค้าจ.น่าน เปิดเผยความคืบหน้าเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมหารือปัญหาน้อยใหญ่ และแลกเปลี่ยนกันทางธุรกิจ การค้าและท่องเที่ยว กับแขวงไชยบุรี อุดมไชย และแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว ซึ่งได้เคยทำ MOU (Memorandum Of Understanding) หรือบันทึกความเข้าใจกันไว้แล้วในเบื้องต้นกับแขวงอุดมไชย เมื่อปี2563 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเกิดโรคระบาดโควิด-19 ทำให้การพบปะมีอันต้องหยุดชะงักไป โดยการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 6-8 กรกฎาคม 2565 นั้น ยังมีประธานสภาหอการค้าชาติลาว ทูตพาณิชย์สปป.ลาว มาร่วมความสำคัญด้วย
“ถือเป็นงานใหญ่มาก เดินทางมาวันที่6 ประชุมวันที่ 7 แล้ว workshop วันที่8 รวม 3 วัน 2 คืน เศรษฐกิจก็คงจะสะพัดในพื้นที่ระดับหนึ่งในครั้งนี้ แต่โอกาสต่อไปจะประเมินมูลค่าไม่ได้โดยจะเป็นการเชื่อมระดับรัฐบาล จะเชิญรัฐมนตรี เจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งมหาดไทย คมนาคม พาณิชย์เผลอๆ ที่แน่ๆ อาจจะมีนายกรัฐมนตรีลงมาด้วย มันเป็นหน้าตาระดับประเทศไปแล้ว” นายศรีรุ่งระบุ และว่าสำหรับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยและทีมงาน ยังไงก็ต้องลงมาอยู่แล้วเพราะมีแนวทางการผลักดันตรงนี้
ทั้งนี้ ในส่วนการประชุมหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วยจ.เชียงราย แพร่ พะเยา น่านครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ที่สำนักงานด้านความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน เครือเจริญโภคภัณฑ์อ.เมืองน่าน เพื่อหารือถึงเรื่องการค้าการลงทุน โดยมีนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในการเปิดกิจกรรมดังกล่าวตนได้เสนอแผนแม่บท MASTER PLAN ของแต่ละจังหวัดเพื่อขับเคลื่อนร่วมกัน 6 เรื่องหลัก
ประกอบด้วยเรื่อง 1.การค้าชายแดนและลงทุนร่วมกันทั้ง 4 จังหวัด ผ่านงบประมาณกลุ่มเหนือตอนบน 2 เสนอผ่านสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)
2.การท่องเที่ยวและบริการ (แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19)
3.การพัฒนาท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์วัฒนธรรม ตามรอยอารยธรรมล้านนาตะวันออก
4.ด้านการเกษตรและอาหาร ว่าด้วยการพัฒนาเกษตรปลอดภัย มุ่งสู่เกษตรอินทรีย์และแปรรูปสินค้าการเกษตร
5.การพัฒนาระบบเครือข่าย logistics หรือกระบวนการจัดการสินค้าและบริการตลอดห่วงโซ่อุปทาน เช่นนำเอา ICT เข้ามาช่วยแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร (เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) โดยเฉพาะเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาคมนาคม 1) ถนน1097 อ.เชียงกลาง น่าน – อ.เชียงม่วนพะเยา โดยขยาย 12 เมตร ความหนา12 ออนท์ มีไหล่ทาง 2) ถนนอ.เชียงม่วน พะเยา – อ.สอง แพร่และเส้นทางร้องกวาง แพร่ – อ.นาหมื่น จ.น่าน
และเรื่องที่ 6 YEC (Young Enterpreneur Chamber of commerce) หรือกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาเครือข่ายสมาชิกและธุรกิจ จ.พะเยา ได้เสนอสร้างความเข้มแข็งให้ทั้ง 4 จังหวัดทำคลิปนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงกัน ชูจุดเด่นและการเดินทาง รวมถึงเชื่อมโยงสินค้าและการท่องเที่ยว ตลอดถึงเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขการแพทย์ การท่องเที่ยว การขนส่งสู่ทะเลจีนของเวียดนาม และอาหาร
นอกจากนั้น ยังเสนอให้เน้นการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ ผลงานและกิจกรรมสื่อสารองค์กร อีกทั้งส่งเสริมทำงานร่วมกันระหว่างหอการค้า และYEC มุ่งส่งเสริมการเพิ่มและรักษาสมาชิกดังกล่าว ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือนี้
นายศรีรุ่ง ประธานหอการค้าน่านตอบคำถามกรณีการพัฒนาด่านการค้าชายแดนห้วยโก๋น จ.น่านว่า ปัญหาตอนนี้ได้แก้ไขเรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว ทั้งพื้นที่ทับซ้อนของหน่วยงานต่างๆ การแบ่งสรร – ขอใช้พื้นที่ เรื่องแนวเขต No Man’s Land และจุดตั้งซุ้มประตูหน้าด่านที่เป็น 4 ช่องจราจรใช้งบฯ กว่า 30 ล้านบาท แต่ขอไม่เล่าถึงปัญหาความล่าช้าไปอีก 2 ปีกว่า โดยจังหวัดน่านเป็นผู้รวบรวมโครงสร้างทั้งหมดของหน้าด่านอย่างไรก็ตาม งบประมาณเราปีละแค่200 กว่าล้านบาท ใช้ในจังหวัดเองยังไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องขอส่วนดังกล่าวจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ซึ่งผลักดันไปอีกช่องทางหนึ่ง
“เรื่องโครงการของน่านที่มีการอนุมัติแล้ว ไม่ว่าสะพานปากนาย อ.นาหมื่นจ.น่าน ได้อนุมัติ EIA มาแล้ว อ่างเก็บน้ำน้ำกิ น้ำกอน น้ำฮิ โครงการเหล่านี้ไม่ใช่อยู่ในแผน มันไม่ใช่ว่าอยู่ในแผนแล้วจะสำเร็จ มันนอนอยู่ถ้าไม่มีใครหยิบขึ้นมาผลักดันทำให้สำเร็จมันก็ไม่เกิด แต่ที่ชัดเจนที่สุดก็คือถ้าน่านเราได้ 5 อ่างสำคัญสายเหนือซึ่งได้อยู่แล้ว เมืองน่านจะเป็นสีเขียวทั้งหมดทุกพื้นที่ เห็นโปรเจคของท่านผู้ว่าฯ วิบูรณ์ แววบัณฑิต บอกว่าถ้าเราทำ 5 อ่างสายเหนือจบ ก็ต้องมาดูสายกลางแถวน้ำแก่นเหนือ – ใต้ ทางนาเหลืองม่วงขวาที่ยังขาดแคลนอยู่อีก” นายศรีรุ่งตอกย้ำ
และว่า หากภาคเอกชนไม่ว่าหอการค้า อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว กระทั่งทางจังหวัด ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานความมั่นคง ถ้าไม่เห็นพ้องต้องกัน ไม่ช่วยกันผลักดัน มันเกิดไม่ได้โดยเด็ดขาดหรอก จะไปอาศัยหน่วยงาน องค์กรใดองค์กรหนึ่งมันไม่ได้ ไม่ใช่ว่าบางพรรคบางพวกมือไม่พายก็ยังเอาเท้ามาราน้ำอีก แต่อย่าไปใส่ใจเลย ใครคิดจะทำเพื่อบ้านเมืองก็ทำไปเท่าที่ทำได้ อะไรที่เกิดขึ้นและเห็นได้ในเชิงประจักษ์ ตนเชื่อว่าชาวบ้านเขารู้ดีกว่าเราเสียอีก ไม่จำเป็นต้องบรรยายหรือขยายความรายละเอียดของโครงการเหล่านี้