ฟื้นเศรษฐกิจบนผืนน้ำ เส้นทางแห่งความหวังกลางเล “สมุย”
ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณี การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและการขนส่งเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ทางทะเล เป็นอีกหนึ่งนโยบายและแนวทางสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคผืนน้ำของประเทศไทย อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวเป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่สามารถสร้างเม็ดเงินอย่างมหาศาลให้แก่ประเทศได้ในอนาคต
โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยต่อ คณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา ที่เดินทางมาตรวจติดตามราชการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า จากการที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้สถานการณ์โควิด –19 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 สร้างรายได้ กว่า 650 ล้านบาท
แต่หากมีท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ ในพื้นที่เกาะสมุย จะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างมั่นคง
ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เห็นว่าหากกรมเจ้าท่า ก่อสร้างท่าเรือสำราญบริเวณแหลมหินคม ตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย แล้วเสร็จ ก็จะเป็นการตอบสนองยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด ด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ทางทะเลที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นการเพิ่มโอกาสการท่องเที่ยวทางทะเลในภูมิภาคอาเซียน ที่จะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจบนผืนน้ำ ในเส้นทางแห่งความหวังของประชาชนโดยรอบพื้นที่เกาะสมุยอย่างยั่งยืน