อนุชา” เปิดตัวหุ่น “เซียงยืน” ของดี ต.บ้านค้อ ต้อนรับงานบุญเผวด มหกรรมหุ่นเซียงยืน
ภูมิปัญญาคนอีสานที่นำมารวมมากที่สุดในประเทศไทยที่ขอนแก่น ขณะที่ชาวชุมชนเสนอขอรับการช่วยเหลือถึง “บิ๊กตู่” หลายเรื่อง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 21 ก.พ.2565 ที่วัดโพธิ์ศรี บ.ค้อ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิดอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์,นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น และนายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมเปิดตัวหุ่น “เซียงยืน” อัตลักษณ์ประจำถิ่นของชาว ต.บ้านค้อ ซึ่งชาวชุมชนได้พร้อมใจจัดทำขึ้นรวม 20 ตัว เพื่อใช้ในการกำหนดจัดกิจกรรมในเดือน มีนาคม ที่จะถึงนี้ ท่ามกลางความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.ใกล้เคียง ร่วมชมความสวยงามของหุ่นเซียงยืนกันอย่างเนืองแน่น ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวัรสโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการลงพื้นที่ที่ จ.ขอนแก่น เป็นการติดตามแนวทางการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในด้านเศรษฐกิจ และปากท้องในระดับชุมชน เพื่อติดตามแนวทางการดำเนินงานและข้อเสนอแนะจากชุมชนเพื่อนำไปู่การแก้ไขปัญหาในระดับรัฐบาล ขณะเดียวกันคนในชุมชน ต.บ้านค้อ ยังคงได้จัดกิจกรรมเพื่อคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ประจำถิ่นที่สวยงาม คือ “เซียงยืน” ซึ่งแสดงถึงสีสันแห่งความสนุกสนาน ในวิถีของคนอีสานได้อย่างครบถ้วน ภายใต้สถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น ซึ่งคำว่าเซียงเป็นภาษาอีสานหมายถึง คนที่ผ่านการบวชเณรมาแล้ว ได้รับการอบรมสั่งสอนมาแล้ว ส่วนคำว่ายืน มีความหมายถึงอายุยืนนาน
” หุ่นเซียงยืน จึงเป็นตัวแทนของความดีงามและเป็นมงคล ซึ่งเทศบาลตำบลบ้านค้อได้จัดทำขึ้นทั้งสิ้น 200 หุ่นและวันนี้ได้มีการเปิดตัวเพื่อเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะมาร่วมกิจกรรมและร่วมขบวนแห่บุญผะเหวด ประเพณีตามคติความเชื่อของชาวอีสาน ซึ่ง เทศบาลตำบลบ้านค้อ ได้กำหนดจัดขึ้นในเดือน มี.ค.ในชื่องานกินข้าวปุ้น เอาบุญผะเหวต เที่ยวเทศกาลหุ่นเซียงยืน รื้อฟื้นวัฒนธรรม”
นายอนุชา กล่าวต่ออีกว่า จากการรับฟังปัญหาของพื้นที่ซึ่งผู้นำชุมชนและประชาชนได้ส่งถึงรัฐบาล ประกอบด้วยปัญหาถนนชำรุดเนื่องจากมีรถบรรทุกขนดินวิ่งเข้า–ออกในพื้นที่ทั้ง 3 ตำบล คือ ต.บ้านค้อ–สาวะถี และ ต.แดงใหญ่ หากถนนเส้นนี้ได้รับการพัฒนาก็จะทำให้ประชาชนสัญจรสะดวกมากยิ่งขึ้น ประเด็นปัญหาที่ดินทำกินในเขต ต.โนนท่อน และ ต.ม่วงหวาน อ.เมือง ที่ยังมีบางพื้นที่ขาดเอกสารสิทธิ์ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรของประชาชน ส่วนพื้นที่ ต.สำราญที่ติดกับถนนมิตรภาพ ขณะนี้มีการซ่อมแซมถนนประชาชนได้สัญจรใช้เส้นทางในหมู่บ้าน จึงได้เสนอเรื่องขอถนนคู่ขนานกับรถไฟทางคู่ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาการจราจรหนาแน่น ซึ่งทุกเรื่องจะมีการประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อออกแบบโครงการและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป