นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พาน.ส.ก้อย (นามสมมุติ) นักศึกษาสาวปี 1 ไปพบ พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ลำลูกกา เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม
27 ม.ค.65 จ.ปทุมธานี เวลา 10.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พาน.ส.ก้อย(นามสมมุติ) นักศึกษาสาวปี 1 ไปพบ พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ลำลูกกา เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีถูกคนร้ายขับรถกระบะปาดหน้าจยย. และฉุดขึ้นรถกระบะปิดตาพาไปข่มขืนน.ส.ก้อย (นามสมมุติ) เหยื่อยกมือไหว้ขอชีวิต หลังจากข่มขืนแล้วนำตัวมาปล่อยไว้ที่เปลี่ยวยึดโทรศัพท์มือถือ เงิน 300 บาท น.ส.ก้อย ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านละแวกนั้นช่วยโทรหาญาติมารับ ด้วยอาการหวาดกลัว ตกใจ สั่นไปทั้งตัว คิดว่าจะไม่มีชีวิตกลับมา
จากกรณี น.ส.ก้อย (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65 แจ้งว่า ขณะขี่รถจยย.กลับบ้านหลังเลิกงานพาร์ทไทม์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ระหว่างทางบริเวณคลองแอน หลังวัดดอนใหญ่ คลอง 8 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน ลักษณะคนหนึ่งอ้วน อีกคนหนึ่งผอม ขับรถกระบะแบบยกสูง สีดำ มาปาดหน้าจนเกือบชนรถจยย. ก่อนจะฉุดตนเองขึ้นรถกระบะ
โดยชายอ้วนเป็นคนขับรถกระบะ บังคับให้ตนใช้แมสก์ปิดตาเพื่อจะได้มองไม่เห็นทางและขับพาไปข่มขืนที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่าที่ใด ขณะที่ชายผอมขี่รถจยย.ของตนประกบรถกระบะตลอดทางเพราะเกรงว่าตนจะกระโดดรถหนี ระหว่างทางตนยกมือไหว้ร้องขอชีวิตกับชายอ้วนเพราะกลัวว่าจะถูกฆ่า เหตุเกิดช่วง 21.00 น. วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังคนร้ายชายอ้วนข่มขืนตนเสร็จก็บังคับให้ขึ้นรถกระบะและปิดตาพาตนมาปล่อยทิ้งตอน 23.00 น. บริเวณโรงปูนคลอง9 พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ของตนไป หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.ลำลูกกา ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี
หลังรับเรื่องวันที่ 20 ม.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พา น.ส.ก้อย ไปพบพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ลำลูกกา เพื่อให้ปากคำและหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมขอให้เร่งติดตามตัว 2 คนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีเพราะเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง
ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค.65 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จึงได้พาน.ส.ก้อย ผู้เสียหายเดินทางไปที่สภ.ลำลูกกา เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ลำลูกกา กล่าวว่า ตำรวจสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพ จึงได้แจ้งข้อหาชายอ้วน ข่มขืนกระทำชำเรา, กักขังหน่วงเหนี่ยว, ลักทรัพย์ส่วนชายผอม แจ้งข้อหา ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ขอฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางที่เปลี่ยวและมืดมาก ชาวบ้านแจ้งว่าที่ผ่านมาเกิดเหตุอาชญากรรมขึ้นบ่อยครั้ง อยากให้มีการติดไฟแสงสว่างเพิ่มขึ้น และติดตั้งกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางเพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้าย ดีกว่าจะปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อนตกเป็นเหยื่อ
ยังมีคนทุกข์ร้อนรอความช่วยเหลืออีกจำนวนมาก
ร่วมบริจาคช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกับมูลนิธิปวีณาฯ ผ่าน QR Code หรือ ธ.ไทยพาณิชย์ เลขที่ 076-2-76401-3 #มูลนิธิปวีณา #ช่วยเด็กสตรี #ช่วยเหลือสังคม#1แชร์ช่วยสังคมได้