ขอให้ตรวจสอบเบอร์โทรฯ 2 หมายเลขว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ที่ได้โทรมาหานางปวีณา หวั่นมิจฉาชีพนำเสียง “ปวีณา” สนทนาไปใช้ AI เลียนแบบเสียงหลอกเหยื่อ
กองบัญชาการตร.ไซเบอร์ : วันที่ 13 ก.พ.67 เวลา 13.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปพบและประชุมกับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. โดยนำหลักฐานเพื่อขอให้ตรวจสอบเบอร์โทรฯ 2 หมายเลขว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ที่ได้โทรมาหานางปวีณา หวั่นมิจฉาชีพนำเสียง “ปวีณา” สนทนาไปใช้ AI เลียนแบบเสียงหลอกเหยื่อขอรับบริจาค และนำข้อมูลของผู้เสียหายที่ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ ถูกหลอกในรูปแบบต่างๆ ถูกหลอกให้ถ่ายภาพโป๊เปลือยข่มขู่แบล็กเมล์ สถิติมูลนิธิปวีณาฯ ปี 2567 รับเรื่องร้องทุกปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 668 ราย เพื่อประชุมจับมือกันทำงานให้การช่วยเหลือเหยื่อ พร้อมกันนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ “ปวีณา” หรือ มูลนิธิปวีณาฯ ไม่มีนโยบายโทรศัพท์ไปขอรับบริจาคเงินกับบุคคลใดหรือหน่วยงานใดทั้งสิ้น ทั้งที่รู้จักกันหรือไม่รู้จักกัน ดังนั้นหากมีเสียงคล้าย “ปวีณา” หรือ เจ้าหน้าที่ หรือ หนังสือมูลนิธิปวีณาฯ ไปขอรับบริจาคเงินนั้นคือ มิจฉาชีพ ขออย่าหลงเชื่อบริจาคเงินโดยเด็ดขาด เผยที่ผ่านมามีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นมูลนิธิปวีณาฯ อีกทั้งใช้รูป ปวีณา เป็นโปร์ไฟล์ในไลน์เพื่อหลอกเหยื่อต้องสูญเงินหลายราย
วันนี้นางปวีณาได้นำหนังสือเอกสารผู้เสียหายขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณา จำนวน 7 ราย ที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ ถูกหลอกถ่ายภาพโป๊แบล็กเมล์ 5 ราย ถูกหลอกให้โอนเงิน อีก 2 ราย มามอบให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.ให้ความช่วยเหลือ
นางปวีณา กล่าวว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาหา 2 เบอร์ ในเวลาไล่เลี่ยกัน เบอร์แรก 062 684 09xx โทรมาตอน 10.47 น. แต่ไม่ได้รับสาย จากนั้นก็มีเบอร์ 066 050 57xx โทรมาเวลา 11.15 น. คนที่โทรเข้ามาเป็นผู้หญิงพูดว่า “สวัสดีคะดิฉันโทรมาจากสภ. (ฟังไม่ถนัด ) ใช่คุณปวีณาหรือเปล่าคะ?” โดยถามซ้ำหลายครั้ง ซึ่งก็ตอบไปว่า “ใครต้องการพูดด้วยค่ะ” “คุณต้องการอะไรคะ” ถึง 2 ครั้ง จากนั้นเขาก็วางหูไป ทั้งนี้เชื่อว่าคนที่โทรมาเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีการพัฒนารูปแบบนอกจากหลอกเงินเหยื่อแล้วยังมีการใช้เสียงคนไปทำ AI เลียนแบบเพื่อโทรหลอกเหยื่ออีกจนมีผู้เสียหายจำนวนมาก
ที่ผ่านมามูลนิธิปวีณาฯ ได้เคยรับเรื่อง 2 เคส เคสแรก เป็นคุณแม่ท่านหนึ่งที่อยู่จ.ตรัง โทรมาบอกว่าได้โอนเงินให้กับมูลนิธิปวีณาฯ จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าดำเนินการในการช่วยลูกชายที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา พร้อมกับส่งสลิปการโอนเงิน และใบเสร็จรับเงินปลอมที่ใช้ชื่อมูลนิธิปวีณาฯ มาให้ดู มูลนิธิฯ จึงสอบถามที่มาที่ไปพร้อมกับชี้แจงว่า ในการช่วยเหลือทุกเคสมูลนิธิปวีณาฯ ไม่เคยเรียกรับเงินหรือค่าดำเนินการแต่อย่างใด คุณแม่ท่านนั้นจึงได้รู้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอก ส่วนเคสที่ 2 เป็นหนุ่มช่างทำสีรถยนต์ ต้องการหาเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยหนักก่อนจะไปเจอแอปเงินกู้ในออนไลน์ โดยมิจฉาชีพหลอกให้แอดไลน์คุยเรื่องกู้เงิน ซึ่งมิจฉาชีพใช้รูปโปรไฟล์ในไลน์เป็นรูป “ปวีณา” และหลอกให้โอนเงินค่าดำเนินการในการกู้เงินไปร่วม 3 หมื่นบาท สุดท้ายก็ไม่ได้เงินไปรักษาแม่และต้องเสียเงินอีก
นางปวีณา กล่าวเตือนภัย ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่แอบอ้างใช้ชื่อ “ปวีณา หงสกุล” หรือ “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” ว่าจะมีการช่วยเหลือเงิน ให้กู้เงิน แล้วเรียกเก็บค่าดำเนินการ หรือโทรไปขอยืมเงิน ขอเงินบริจาค เพราะไม่มีนโยบายโทรศัพท์ไปขอรับบริจาคเงินกับบุคคลใดหรือหน่วยงานใดทั้งสิ้น มูลนิธิปวีณาฯ จะไม่มีการโทรไปขอเงิน หรือขอเงินบริจาคใครเด็ดขาด
สำหรับผู้ใจบุญที่จะบริจาคเงินมูลนิธิปวีณาฯ ในการดำเนินการช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม มูลนิธิปวีณาฯ ไม่ขอรับเป็นเงินสด โดยท่านสามารถบริจาคได้ผ่าน 4 บัญชีธนาคารนี้เท่านั้น ชื่อบัญชี “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี”
1. ธ.กรุงเทพ สาขารามอินทรา เลขที่ 187-4-44641-0
2. ธ.ไทยพาณิชย์ สาขารามอินทรา กม. 4.5 เลขที่ 076-2-76401-3
3. ธ.กสิกรไทย สาขารามอินทรา เลขที่ 006-3-34613-6
4. ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขารามอินทรา-วัชรพล เลขที่ 381-1-22311-0
นางปวีณา ย้ำว่า “หากมีใครโทรไปขอเงินบริจาคในนามมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้แจ้งมาได้ที่เบอร์โทร. 081 890 1355, 062 560 1636, 098 478 8991 หรือโทรสายด่วน 1134 จะได้ทำการตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย”
นางปวีณา กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ที่มารับเรื่องและร่วมประชุมกันวันนี้ มูลนิธิปวีณาฯ ยังมีผู้เสียหายที่ร้องทุกข์เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์อีกหลายรายจึงได้นำข้อมูลมาประสานขอความช่วยเหลือเพื่อจับมือกันทำงานช่วยเหลือประชาชน สำหรับปัญหาอาชญากรรมปัจจุบันเพิ่มขึ้นสูงมากโดยมิจฉาชีพแฝงตัวมาในหลายรูปแบบ
สถิติมูลนิธิปวีณาฯ ประจำปี 2567 (2 ม.ค.-31 ธ.ค.) รับเรื่องราวร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น 5,647 ราย เป็นปัญหา ค้าประเวณี 257 ราย ซึ่งผู้เสียหายถูกหลอกค้าประเวณีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนใหญ่พบการโฆษณาในโซเชียล ขณะที่ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์พุ่งสูงถึง 668 เรื่อง 1.หลอกลงทุน 318 ราย เสียหายกว่า 3 พันล้าน 2.หลอกเป็น call center 64 ราย 3.หลอกถ่ายคลิปโป๊ 105 ราย ช่วงอายุ 11-15 ปีมากสุดถึง 24 ราย ที่น่าตกใจเด็ก 10 ขวบก็ถูกหลอกด้วย 4.ถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า 53 ราย 5.ถูกข่มขู่คุกคาม/หมิ่นประมาททางโซเชียล 48 ราย 6.กู้เงินออนไลน์ 4 ราย 7.ถูกหลอกจะหางานทำต่างประเทศ 54 ราย 8.อื่นๆ 22 ราย
ขณะที่ในปี 2568 นี้ มูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องร้องทุกข์ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 77ราย เดือน ม.ค.68 จำนวน 64 ราย เดือน ก.พ. 68 (ถึง 13 ก.พ. 68) จำนวน 13 ราย, ค้าประเวณี 21 ราย เดือน ม.ค. 68 จำนวน 8 ราย เดือน ก.พ. 68 (ถึงวันที่ 13 ก.พ. 68) จำนวน 13 ราย
ทั้งนี้ขอเตือนผู้หญิงไทยที่คิดจะหางานสบาย รายได้ดี เดินทางไปทำงานต่างประเทศ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนเพราะอาจถูกหลอกไปค้าประเวณี หรืออุ้มบุญได้ โดยมิจฉาชีพมีการโฆษณาในสื่อออนไลน์มีกลยุทธ์สร้างความน่าเชื่อถือ แต่สุดท้ายก็ถูกหลอกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ไปแล้วอาจไม่ได้กลับมาบ้านอีก หรืออาจต้องถูกดำเนินคดีด้วย.