“ปวีณา” พานศ.สาวปี 4 ม.ดัง ไปติดตามคดี “ส.ต.ต.” เรียกรับเงิน 1 หมื่นบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาขับ
และบีบบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แลกกับใบผลตรวจแอลกอฮอล์ พร้อมนำหลักฐานคลิปเสียง แชตไลน์ ไปมอบให้ พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และพ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี เพื่อเป็นหลักฐาน “นศ.สาว” ลั่น!! หนูไม่เคยสมยอม แต่ถูกข่มขู่ให้มี 2 ทางเลือก “ติดคุก–จ่ายเงิน” แถมไม่จบ กลับใช้ใบผลตรวจบีบบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ ขณะที่ “คู่กรณีรถชน” กับนศ.สาว เห็นข่าวสงสารจับใจพร้อมเป็นพยานให้เต็มที่ ชี้เป็นตร.ผู้รักษากฎหมายแต่กลับทำเรื่องฉาว ต้องได้รับโทษหนัก
ที่มูลนิธิปวีณาฯ : วันที่ 11 ก.ย.67 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จะพาน.ส.เอ(นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง กับแม่และอา เดินทางไปที่สภ.ธัญบุรี พบกับ พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานีและพ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี เพื่อติดตามคดี “ส.ต.ต.” สิบเวรประจำวัน สภ.ธัญบุรี เรียกรับเงิน 1 หมื่นบาทจากน.ส.เอ แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาขับและบีบบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แลกกับใบผลตรวจแอลกอฮอล์ พร้อมนำคลิปเสียงสนทนาระหว่าง “ส.ต.ต.” กับ น.ส.เอ และแชตไลน์มาให้เพื่อเป็นหลักฐาน
พร้อมกันนี้นางปวีณา ยังจะได้พา นายเอ็ม (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี คู่กรณีที่ขับรถเฉี่ยวชนกับน.ส.เอ ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เนื่องจากเจ้าตัวทราบข่าวและต้องการจะเป็นพยานให้กับน.ส.เอ ในการขอทราบผลตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของน.ส.เอ แต่ส.ต.ต.บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ถึง 2 ครั้ง และพยายามไม่ให้คู่กรณีพบหน้าพูดคุยกัน
นางปวีณา กล่าวว่า วันนี้จะขอให้ พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานีและพ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ดำเนินการสอบพยานและเก็บหลักฐานฝ่ายน้องเอดังนี้
1.ตำรวจได้ไปขอภาพจากกล้องวงจรขณะน้องเอไปกดเงิน 10,000 บาท ที่ร้านสะดวกซื้อใกล้เมืองเอก เมื่อวันที่ 1 ก.ย.67 ซึ่ง ส.ต.ต.ขับรถส่วนตัวพาน้องเอไปกดเงินหรือยังถ้ายังต้องให้น้องเอไปชี้จุดที่กดเงินด้วย
2.สอบปากคำแพทย์โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ที่น้องเอเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. ต่อมาวันที่ 5 ก.ย. ส.ต.ต. โทรศัพท์ไปหาว่าจะไปรับน้องพาไปเที่ยว ซึ่งน้องเอได้เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้คุณหมอฟัง และคุณหมอจึงให้แอดมิดอีก 1 คืนเพราะคุณหมอเข้าใจและเห็นใจที่น้องเอเครียดจัดไม่ต้องการไปกับส.ต.ต.
3.คู่กรณีที่ขับรถเกิดเฉี่ยวชนกับน้องเอ ยินดีที่จะเป็นพยานให้น้องเอว่า ส.ต.ต.ไม่ยอมให้ใบผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์กับตนตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ 30 ส.ค. ซึ่งต่อมาวันที่ 2 ก.ย. ก็ยังได้ร้องขอใบผลตรวจแอลกอฮอล์กับ ส.ต.ต. อีกครั้ง ก็ได้รับคำตอบว่า ผลตรวจแอลกอฮอล์ออกมาแค่ 20 กว่าๆ ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่กฎหมายกำหนด และคู่กรณีเองต้องการที่จะพบเพื่อตกลงกับนางสาวเอ แต่ส.ต.ต.ก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้พบ
4.ได้นำหลักฐานคลิปเสียงและแชทไลน์การสนทนาระหว่างส.ต.ต. กับน.ส.เอ ไปมอบให้กับผู้การเพื่อเป็นหลักฐานในคดี
น.ส.เอ กล่าวว่า ตอนนี้หนูเครียดมากที่มีการให้สัมภาษณ์ของส.ต.ต. เหมือนกับว่าหนูสมัครใจไปนั้นไม่เป็นความจริง คืนวันที่ 30 ก.ย.ที่เกิดเหตุรถชนเป็นครั้งแรกของหนูที่ต้องขึ้นโรงพัก ถ้าใครไปดูกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าหนูใช้ผ้าห่มคลุมตัวเดินขึ้นไป เพราะหนูคิดว่าจะต้องนอนคุกแล้วเพราะเมาขับ แต่ ส.ต.ต. ก็ขู่หนูว่ามีแค่ 2 ทางเลือกเท่านั้นก็เลยจำใจยอมจ่ายและ และไม่คิดว่าเขาจะเอาใบผลตรวจแอลกอฮอล์มาบังคับให้หนูต้องมีเพศสัมพันธ์ด้วย
ด้านนายเอ็ม (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี คู่กรณีรถชนกับน.ส.เอ กล่าวว่า วันที่ 30 ก.ย. หลังเกิดเหตุรถชน กู้ภัยได้พาตนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จากนั้นกลับมาถึงสภ.ธัญบุรีประมารณตี 2 ก็ยังเห็นน้องเอนั่งอยู่ ตนได้สอบฃถามกับ ส.ต.ต.ว่าผลตรวจออกมายังงัย ส.ต.ต. ก็ตอบว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาขอแล้วกัน เพราะก็ต้องมาเอารถอยู่แล้ว ต่อมาวันที่ 2 ก.ย. ตนก็ได้ขอผลตรวจแอลกอฮอล์ของน้องเอกับ ส.ต.ต.อีกครั้ง ซึ่งส.ต.ต. บอกว่าผลออกมาแค่ 20 กว่าๆ ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่กฎหมายกำหนด ไม่เป็นไรหรอก ยังไงประกันก็ซ่อมรถให้น้องอยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุตนก็อยากจะคุยกัน้องเอ คู่กรณีแต่ส.ต.ต.ก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้พบ
นายเอ็ม กล่าวอีกว่า หลังจากเห็นข่าวนี้ ตนรู้สึกว่าคุ้นๆ คล้ายกับเรื่องของตน และเป็นจังหวะที่อาของน้องเอติดต่อมาจึงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องเอ ก็รู้สึกสงสารและเห็นใจ จึงอยากจะช่วยให้เต็มที่และพร้อฝที่จะเป็นพยานให้ด้วย เพราะคนที่ทำเรื่องนี้เป็นตำรวจเป็นผู้ใช้กฎหมายแต่กลับมาทำเรื่องแบบนี้ ต้องให้ได้รับโทษหนัก