แม่เครียดลูกชายติดยาจุดไฟเผาบ้านเผาเสื้อผ้า ร้อง “ปวีณา”
จ.ร้อยเอ็ด วันที่ 19 เม.ย.67 แม่เครียดลูกชายติดยาจุดไฟเผาบ้านเผาเสื้อผ้า ร้อง “ปวีณา” ลูกชายอายุ 18 ปี ตกเป็นเหยื่อทาสยานรก เสพยาเสพติดมีอาการคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านและเผาเสื้อผ้า “ปวีณา” ประสาน พ.ต.ท.บรรเจิด ชมภูฤกษ์ รอง ผกก.สภ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด ส่งเข้าสถานกักขังกลาง จ.ร้อยเอ็ด เตรียมเข้ารับการบำบัดรักษาที่สถาบันธัญรักษ์ จ.ขอนแก่น หลังพ้นการควบคุมตัว
สืบเนื่องจากวันที่ 18 เม.ย.67 นางส้ม (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ชาวจ.ร้อยเอ็ด ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ตนเลิกรากับอดีตสามีมาตั้งแต่ลูกยังเล็กตนต้องเลี้ยงดูลูกชาย 2 คน ปัจจุบันอายุ 13 ปี และ 18 ปี กับแม่ที่ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบมาด้วยตัวคนเดียว โดยทำอาชีพเก็บของเก่าขาย หลายปีที่ผ่านมา นายเอ้(นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ลูกชายคนโต จากที่เคยเป็นเด็กดีเรียนเก่งกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เพราะหันไปเสพยาเสพติดตั้งแต่อายุ 14 ปี แม่เคยเกลี้ยกล่อยพาไปบำบัดรักษา แต่เมื่อลูกกลับบ้านมาก็ไม่ยอมกินยาแถมยังกลับไปเสพยาเสพติดอีก ระยะหลังลูกเริ่มมีอาการทางประสาท นั่งพูดคนเดียว ทำลายข้าวของ และจะทำร้ายคนในบ้านทำให้ยายกับน้องต้องย้ายไปอยู่บ้านญาติ ส่วนแม่ก็ต้องออกทำงานหาเงิน
วันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่แม่อยู่กรุงเทพฯ นายเอ้ได้คลุ้มคลั่งจุดไฟเผาเสื้อผ้าในบ้านและถ่ายรูปส่งไลน์มาให้แม่ดู บอกว่า “จะเผาบ้านตัวเอง เพราะโมโหที่ไม่มีใครอยู่บ้าน จะขอเงินใครก็ไม่ได้” แม่จึงรีบโทรบอกผู้ใหญ่บ้านและญาติที่อยู่บ้านใกล้เคียงให้ไปช่วยดับไฟที่บ้านได้ทัน วันที่ 15 เม.ย. ยายได้ไปแจ้งความที่ สภ.จตุรพักตรพิมานจ.ร้อยเอ็ด ตำรวจจึงมาที่บ้านพบนายเอ้กำลังนั่งเสพยาอยู่ จึงนำตัวไปโรงพักเพื่อดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติด ก่อนที่ตำรวจจะส่งตัวไปอยู่ที่สถานกักกันกลางจ.ร้อยเอ็ด แม่ต้องการให้นายเอ้ได้รับการบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติดระยะยาวเพื่อให้กลับมาเป็นคนดีในสังคม และเป็นเด็กที่น่ารักของครอบครัว จึงได้ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ
หลังจาก นางปวีณา รับเรื่องขอความช่วยเหลือ จึงได้ประสาน พ.ต.ท.บรรเจิด ชมภูฤกษ์รอง ผกก.สภ.จตุรพักตรพิมาน หลังออกจากสถานกักขังกลาง จ.ร้อยเอ็ด ให้ตำรวจส่งตัวไปบำบัดที่สถาบันธัญรักษ์ จ.ขอนแก่น ทันที และจะดูระยะเวลาการบำบัด หากยังไม่ดีขึ้นมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานบ้านปันสุข จ.กระบี่ ส่งตัวนายเอ้ไปบำบัดโครงการระยะยาวต่อไป
