เหยื่อ 10 ราย ร้อง “ปวีณา” ขบวนการคอลเซ็นเตอร์หลอกไปทำงานแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ปอยเปต กัมพูชา
อ้างรายได้ดี ก่อนไปให้เปิดบัญชีธนาคารจำนวนมาก พอไปถึงถูกกักขัง ยึดสมุดบัญชีโทรศัพท์มือถือ หากขัดขืนถูกทำร้าย ก่อนจะใช้ให้สแกนใบหน้าในแอปฯ ธนาคารทุกวันหลังมีเงินโอนเข้าบัญชี เมื่อบัญชีถูกอายัดปล่อยตัวกลับไทย เจอหมายจับคดีฉ้อโกงอื้อ แต่ละคนความเสียหายนับล้าน
วันที่ 7 พ.ย.66 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นายต้ณฬ์ อ่อนสว่าง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พาผู้เสียหาย 10 ราย เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ขบวนการคอลเซ็นเตอร์โฆษณาทางสื่อออนไลน์หลอกผู้เสียหายไปทำงานเกี่ยวกับแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยลักษณะการทำงานจะอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และต้องใช้บัญชีธนาคารในการโอนเงิน รายได้เดือนละ 35,000-45,000 บาท และจะมีค่าเปิดบัญชีธนาคาร บัญชีละ 5,000 บาท
ผู้เสียหายที่กำลังตกงานและมองหางานอยู่จึงหลงเชื่อสมัครงาน ก่อนเดินทางไปปอยเปต ประเทศกัมพูชา ก็ได้ไปเปิดบัญชีธนาคารคนละ 6-7 ธนาคาร แต่ละคนเมื่อเดินทางไปถึงก็จะมีกลุ่มชายฉกรรจ์เดินทางมารับและพาไปกักขัง ยึดพลาสปอร์ต บัตรประชาชน สมุดบัญชี ซิมโทรศัพท์มือถือ พร้อมข่มขู่ไม่ให้ติดต่อกับใครทั้งสิ้น ใครขัดขืนจะใส่กุญแจมือ ช็อตไฟฟ้า ซ้อมทำร้าย จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ก็จะให้แต่ละคนโหลดแอปพลิเคชั่นธนาคารในมือถือเอาไว้
เวลาที่มีเงินโอนเข้ามาคนกลุ่มนี้ก็จะให้เจ้าของบัญชีมาสแกนใบหน้า ทำแบบนี้ทุกวันเป็นเวลากว่า 10 วัน ถึง 1 เดือน ซึ่งถ้าบัญชีถูกอายัดเมื่อไหร่ เจ้าของบัญชีก็จะถูกส่งกลับโดยให้ล้างข้อมูลในมือถือให้หมดพร้อมข่มขู่ห้ามแจ้งตำรวจมิฉะนั้นจะส่งคนมาฆ่าให้ตาย หลังผู้เสียหายแต่ละคนเดินทางกลับบ้านเกิดที่ไทยก็จะเจอหมายจับ หมายเรียกจากตำรวจในข้อหา ฉ้อโกง จำนวนหลายหมาย เป็นเงินหลักหมื่น หลักแสน รวมแล้วนับล้านบาท ขณะที่บางคนก็ยังไม่มีหมายมาถึงแต่ก็คาดว่าจะต้องเจอในอีกไม่นาน จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย