พ่อแม่ใจจะขาดเดินทางจากจ.ชลบุรี ร้อง “ปวีณา” ลูกสาว 2 ขวบ เป็นไข้สูง อาเจียน พาไป รพ.
ฉีดยาเพียงไม่กี่นาทีอาการกลับทรุดหนักกราฟหัวใจตกลงสุด จนต้องปั๊มหัวใจร่วมชั่วโมง สรุปเข้าไปรักษาเพียง 2 ชม. สุดท้ายเสียชีวิต รพ. ออกใบรับรองการตาย เขียน“UNKNOWN CAUSE OF DEATH” “ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต” พ่อแม่เด็กนำใบรับรองการตายไปให้เทศบาล บอกให้ส่งศพไปชันสูตร เพราะเขียนว่า “ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต” แม่จึงไปที่สถานีตำรวจ สภ.ศรีราชา ลงบันทึกประจำวัน ขอชันสูตรศพ ตำรวจส่งใบชันสูตรศพให้ รพ.แหลมฉบัง ประสาน รพ.ที่เด็กเสียชีวิต ขอใบสาเหตุการตายอีกครั้งวันเดียวกันนี้ รพ.ที่เด็กเสียชีวิต จึงได้ออกใบรับรองการตายฉบับที่ 2 (แต่เลขที่หนังสือเดียวกัน) ระบุสาเหตุการตายว่า “เป็นไข้เลือดออก” จากนั้นรพ.แหลมฉบัง ส่งศพไปชันสูตร รพ.ตำรวจ ผลจาก รพ.ตำรวจ เบื้องต้นเสียชีวิตเพราะ“ระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว” และจะต้องรอตรวจละเอียดอีกครั้ง ปวีณา เร่งประสาน ผอ.รพ.ที่เด็กเสียชีวิต และ น.ส.จันจิรา ไทยบัณฑิต พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชลบุรี และติดตามผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงให้กระจ่าง ในการเสียชีวิตโดยเร็ว
วันที่ 15 ต.ค.66 เวลา 10.30 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พ่อแม่ใจจะขาดสูญเสียลูกสาววัย 2 ขวบ เดินทางจากจ.ชลบุรี ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แม่แจ้งว่า มีลูกสาวเพียงคนเดียว คือ “น้องเอม” วัย 2 ขวบ 11 เดือน นิสัยขี้เล่น ร่าเริง ปกติลูกจะอยู่กับยาย (ป้าของแม่) เวลาที่พ่อแม่ไปทำงาน กระทั่งวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่วงค่ำน้องเอมเหมือนจะมีไข้ตัวรุมๆ แม่ก็พยายามเช็ดตัวให้จนไข้ลดลงจนเช้าวันที่ 11 ต.ค. ลูกเหมือนจะมีไข้อ่อนๆ ดื่มนมเข้าไปก็อาเจียน พอตอนค่ำประมาณ20:00 น. แม่เลิกงานกลับมาบ้านก็พาลูกไปโรงพยาบาล เพราะเริ่มเห็นลูกหน้าซีดอ่อนเพลีย แพทย์ที่ห้องฉุกเฉินทำการตรวจฟังเสียงที่บริเวณหน้าอกและฟังเสียงหัวใจและปอดของน้องเอม พร้อมทั้งตรวจวัดชีพจรและวัดความดัน ก่อนจะบอกว่าเด็กไม่เป็นอะไรให้นอนดูอาการ 30 นาที หลังครบเวลาแพทย์ก็ให้ยาแก้ไข้ชนิดน้ำกับแม่และบอกให้พาลูกกลับบ้านได้ และให้สังเกตอาการ 3 วัน มาตรวจเลือด แม่ได้บอกกับแพทย์ว่ามีที่บ้าน ด.ญ. 6 ขวบ เป็นลูกของน้องชายเป็นไข้เลือดออกเพิ่งรักษาหายแล้ว เพทย์รับทราบ
ระหว่างที่นั่งรอรับยาน้องเอมมีอาการซึม หน้าซีด พะอืดพะอม ก่อนจะอุจจาระราดออกมา แม่จึงรีบไปบอกแพทย์ที่ห้องฉุกเฉิน แพทย์ได้ทำการเจาะเลือดน้องเอมและให้ออกซิเจน ก่อนจะบอกให้แม่ไปรอด้านนอก แม่มองผ่านกระจกได้ยินเสียงลูกครางออกมาเบาๆ ก่อนที่ไม่ทราบว่าเป็นแพทย์หรือพยาบาลเป็นชายแต่งชุดกรมท่าฉีดยาให้น้องเอมไม่เพียงกี่นาที ชีพจรน้องเอมค่อยๆอ่อนลง ได้ยินเสียงเครื่องกราฟหัวใจร้องเตือนดังกราฟหัวใจตกลงสุด แพทย์และพยาบาลจึงเข็นลูกเข้าไปในห้องปั้มหัวใจ
“หมอทำการปั๊มหัวใจลูกอยู่ประมาณ 20 นาที และออกมาบอกแม่ว่าลูกไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ซึ่งหมอจะปั๊มหัวใจให้ครบ 30 นาที ถ้าหากลูกไม่กลับมาหายใจก็จะหยุดปั๊มหลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้อง ผ่านไปอีก 10 นาที หมอก็เดินมาแจ้งแม่และครอบครัวอีกครั้งว่า หมอทำเต็มที่เเล้ว พ่อน้องเอมจึงได้ก้มกราบขอให้หมอช่วยลูกอีกครั้ง หมอจึงเดินกลับเข้าไปในห้องช่วยทำการปั้มหัวใจ จนกระทั่งเวลา 23.07 น. หมอเดินออกมาแจ้งว่าได้ทำการปั๊มหัวใจครบ 1 ชม. แล้ว แต่ลูกไม่ตอบสนองให้ญาติตัดสินใจ แพทย์บอกให้พ่อแม่ตัดสินใจหยุดปั๊มหัวใจ เพราะลูกไม่มีการตอบสนองที่จะกลับมาแล้วพ่อแม่แทบขาดใจ
เช้าวันที่ 12 ต.ค. แม่ไปติดต่อที่โรงพยาบาลเพื่อทำเอกสารในการรับศพ ทางโรงพยาบาลให้ใบแจ้งการตายระบุว่า “UNKNOWN CASE OF DEATH “ ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ต่อจากนั้นแม่ไปติดต่อที่เทศบาลศรีราชาเพื่อออกใบมรณบัตรของลูก โดยเจ้าหน้าที่เทศบาลก็สงสัยว่าทำไมโรงพยาบาลระบุสาเหตุแบบนี้ และแม่ไม่อยากทราบหรือว่าลูกเสียชีวิตเพราะสาเหตุอะไร แม่จึงปรึกษาครอบครัวและไปแจ้งความที่สภ.ศรีราชา ว่าติดใจสาเหตุการตายของลูก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกใบชันสูตรให้กู้ภัยช่วยส่งศพไปที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง
ทางโรงพยาบาลแหลมฉบังได้ประสานไปยังโรงพยาบาลที่ลูกเสียชีวิตเพื่อขอประวัติการรักษา แม่ก็วิ่งกลับไปรับเอกสารอีกครั้ง ในครั้งนี้ทางโรงพยาบาลที่ลูกเสียชีวิตได้ ระบุสาเหตุการเสียชีวิต 3 ข้อ 1. SEVERE METABOLIL ACIDOSIS 2. HYPOVOLEMIC SWOCK 3. DENGVE HEMORRHAGIC SHOCK ระบุสาเหตุว่าเสียชีวิตจากไข้เลือดออก หลังได้ประวัติการรักษาทางโรงพยาบาลแหลมฉบังได้ส่งศพน้องเอมไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจในคืนนั้นทันที
ต่อมาวันที่ 13 ต.ค. พ่อแม่และญาติได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อรับศพลูกหลังชันสูตรเสร็จ แพทย์ระบุสาเหตุการตายเบื้องต้น “ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว” และแพทย์ได้มีการตัดชิ้นเนื้อของตับส่งแลปไปตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดซึ่งจะใช้เวลาทราบผลประมาณ 45 วัน โดยครอบครัวได้ตั้งศพ น้องเอม ไว้ที่วัดเขาบางพระอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 13-15 ต.ค.66
“พ่อแม่ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องมาสูญเสียลูกไป และติดใจในการรักษาของหมอ หลังตรวจร่างกายหมอบอกว่าลูกไม่เป็นอะไรทั้งที่ลูกดูอาการแย่ และแม่ก็บอกแล้วว่าเด็กแถวบ้านมีประวัติเป็นไข้เลือดออกเพิ่งจะหาย แต่หมอก็ให้เพียงยาแก้ไข้ก่อนจะบอกให้แม่พาลูกกลับบ้าน ต่อมาหมอฉีดยาให้ลูกแล้ว อาการทรุดหนักหมดสติจนต้องปั๊มหัวใจแม่ก็ไม่ทราบว่ายาที่ฉีดนั้นคือยาอะไร หลังลูกเสียชีวิตโรงพยาบาลก็ยังออกเอกสารระบุไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ให้อีก พ่อแม่อยากให้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจงและรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ” เพื่อให้ติดต่อโรงพยาบาลที่ลูกเสียชีวิต ขอทราบสาเหตุการเสียชีวิตขิงลูก หลังฉีดยาแล้วลูกเสียชีวิต
หลังรับเรื่อง นางปวีณา จะประสานกับสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เร่งขอผลชันสูตร และได้ประสาน น.ส.จันจิรา ไทยบัณฑิต พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชลบุรีและ ผอ.รพ.ที่เด็กเสียชีวิตเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่าง โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชลบุรี ติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป