จ.ระยอง วันที่ 31 พ.ค.66 สามีใจสลาย! ร้อง “ปวีณา” ภรรยาท้อง 7 เดือน เข้ารักษาที่โรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่งในจ.ระยอง
เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์ หลังปวดท้องหนักตรวจพบครรภ์เป็นพิษ โรงพยาบาลอำเภอให้ฉีดยานอนดูอาการ 2 วัน จนน้ำท่วมปอดก่อนส่งตัวไปโรงพยาบาลจังหวัดพบเด็กเสียชีวิตในครรภ์ ส่วนแม่โคม่าต้องปั๊มหัวใจสุดท้ายเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูก ผลการชันสูตรรพ. แม่เสียเลือดมากจากรกเกาะทะลุมดลูก “ปวีณา” ประสาน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติหัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ตั้งกรรมการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม
ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นายหนึ่ง อายุ 42 ปี และนางน้อย อายุ 57 ปี (ทั้งสองนามสมมุติ) สามีและแม่ภรรยา เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอความเป็นธรรมกรณีโรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่งในจ.ระยอง รักษาภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ 7 เดือน เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์
นายหนึ่ง กล่าวว่า นางนิด (นามสมมุติ) ภรรยาอายุ 37 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 7 เดือน ได้ฝากครรภ์ไว้ที่โรงพยาบาลอำเภอ วันที่ 25 พ.ค.66 ภรรยามีอาการปวดท้องมากเหมือนจะคลอดลูกจึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอำเภอ แพทย์ได้วัดความดัน ตรวจเลือด และอัลตร้าซาวด์ ก่อนจะบอกว่าภรรยาตนมีภาวะเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ เด็กจะคลอดก่อนกำหนด ต้องฉีดยาระงับการคลอด เนื่องจากถ้าให้เด็กคลอดออกมาปอดจะไม่แข็งแรง และจะต้องฉีดยา 4 เข็ม ระยะห่างกัน 12 ชั่วโมง โดยกำหนดฉีดยาเข็มที่ 1 วันที่ 25 พ.ค. เวลา 18.00 น., เข็มที่ 2 วันที่ 26 พ.ค. เวลา 06.00 น., เข็มที่ 3 วันที่ 26 พ.ค. เวลา18.00 น., เข็มที่ 4 วันที่ 27 พ.ค. เวลา 06.00 น. พร้อมให้ผู้ป่วยนอนรอดูอาการอยู่ในห้องเตรียมคลอด ซึ่งญาติจะนอนเฝ้าไม่ได้
ต่อมาเช้าตรู่ของวันที่ 27 พ.ค. มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอำเภอได้โทรมาหาตนให้รีบไปที่โรงพยาบาลเพราะจะต้องส่งตัวภรรยาไปโรงพยาบาลจังหวัดด่วน เมื่อไปถึงตนเห็นเจ้าหน้าที่กำลังเข็นเตียงผู้ป่วยที่ภรรยานอนไม่ได้สติและมีอาการชักเกร็งกลับมาที่ห้องเตรียมคลอดและใส่เครื่องช่วยหายใจ จากนั้นไม่นานโรงพยาบาลอำเภอก็ได้ส่งตัวภรรยาไปที่โรงพยาบาลจังหวัด
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลจังหวัดแพทย์ให้นำผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉินทันทีและแพทย์บอกว่าภรรยาตนมีอาการน้ำท่วมปอด ส่วนเด็กในครรภ์เสียชีวิตแล้ว และแม่ก็มีอาการ 50-50 ก่อนที่แพทย์จะทำการปั๊มหัวใจถึง 2 รอบ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตภรรยาตนไว้ได้ และผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยาเบื้องต้น แพทย์ระบุว่า เสียเลือดมากจากรกเกาะทะลุมดลูก โดยตนติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งทางโรงพยาบาลอำเภอน่าจะตรวจเจออาการตั้งแต่ฝากครรภ์และทำการรักษา ทางภรรยาและลูกของตนอาจจะไม่เสียชีวิตก็ได้ ที่ผ่านมาผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลแห่งนี้บางคนก็ต้องสูญเสียลูก หรือสามีอาจจะสูญเสียภรรยามาแล้วหลายราย ซึ่งตนต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับภรรยาและลูก และไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ไปเกิดขึ้นกับใครอีก จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความเป็นธรรม
เบื้องต้นหลังรับแจ้งเรื่องทางโทรศัพท์ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง ให้นายหนึ่ง เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองระยอง จากนั้นนายหนึ่งและแม่ยายมีความประสงค์จะเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา ด้วยตนเอง ที่มูลนิธิปวีณาฯ
วันนี้หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.รุ่งเรือง รับปากจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และประสานสาธารณสุขจังหวัดระยองตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียและหามาตรการป้องกันไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีก.
นางปวีณา กล่าวว่า โรงพยาบาลอำเภอแห่งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีแม่มาร้องมูลนิธิปวีณาฯขอความเป็นธรรมลูกเสียชีวิต มูลนิธิปวีณาได้ประสาน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สสจ. ระยอง ให้การช่วยเหลือแล้วผ่านมาได้ไม่นาน แต่ครั้งนี้ทั้งแม่ทั้งลูกเสียชีวิตอีก จึงขอให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาตรวจสอบเพื่อทราบสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง เพื่อจะได้มีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องมีเหตุการณ์น่าเศร้าใจเด็กหรือแม่ต้องมาเสียชีวิตอีกต่อไป