ศาสนา-ศิลปวัฒนธรรม

สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ร่วมกับทุกภาคส่วนของจังหวัดอุบลราชธานีประกาศให้เมืองอุบลฯมีความเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นเมืองกัมมัฏฐานโลก

และผู้นำทุกมิติ ต้องใช้ธรรมเป็นอำนาจ ไม่ใช้อำนาจเป็นธรรม และร่วมกันต่อเทียนธรรมให้สว่างไสวไปทั่วโลก

งานเสวนาธรรม “ธรรมวิชัย สู่ศตวรรษแห่งธรรม” ครั้งที่ 2 หัวข้อ “สัมมาวาทะ: สติสันติสุข สันติภาพ ต่อเทียนธรรม อุบลราชธานี เมืองกัมมัฏฐานโลก” ณ จังหวัดอุบลราชธานี ได้เริ่มขึ้นแล้ว

โดย ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ แก้วกุลชัย รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการเสวนาว่า หลังมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย จากนั้นได้มีการจัดเสวนา จุดเทียนธรรมเป็นครั้งแรก ก่อให้เกิดศีลธรรมและจิตสำนึกในพื้นที่ การจัดเสวนาธรรมครั้งที่2 นี้ เป็นการเสริมสร้างสันติธรรม มีสติ ขยายผลสู่สันติภาพ ขับเคลื่อนสู่ศตวรรษแห่งธรรมต่อไป หวังว่าการร่วมเสวนาครั้งนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนจังหวัดอุบลราชธานีเป็นเมืองกัมมัฏฐานโลก

นายภูษิต น้อยโสภากุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและกล่าวเปิดงาน โดยมีความยินดีที่มีโอกาสเปิดงานจุดเทียนธรรมในครั้งนี้ จากแรงศรัทธามหาชนในการถวายการรับเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ณ จังหวัดอุบลราชธานี ภายใต้โครงการ “ธรรมยาตรา พระบรมสารีริกธาตุ จากมหานทีคงคาสู่ลุ่มน้ำโขง” มีศรัทธาพุทธบริษัทจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดใกล้เคียง ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งสปป.ลาว และกัมพูชา เข้ากราบสักการะ จำนวนสูงสุดถึง 810,374 คน แสดงให้เห็นถึงศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างท่วมท้น ประกอบกับจังหวัดอุบลราชธานี เป็นดินแดนนักปราชญ์ ประชาชนใฝ่ธรรม และเป็นถิ่นกำเนิดของพระอริยสงฆ์ อาทิ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล, หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และ หลวงปู่ชา สุภัทโท รวมถึงเป็นจังหวัดแห่งแสงแรก และตั้งอยู่ทิศตะวันออกสุดของประเทศไทย โดยเมื่อปีที่ผ่านมาจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 และภาคีเครือข่ายยังได้จัดกิจกรรมเสวนาธรรม ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม จุดเทียนธรรมอุบลราชธานี เมืองกัมมัฏฐานโลก

ขณะที่การจัดเสวนาธรรมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 มุ่งยกระดับอุบลราชธานีสู่การเป็นเมืองกัมมัฎฐานโลก ผ่านพลังแห่งปัญญาและศรัทธา ด้วยหัวข้อ สติ สันติสุข สันติภาพ ที่จะร่วมกันแลกเปลี่ยน คือหัวใจของการอยู่ร่วมกัน โดยสติเป็นรากฐานของสันติสุขและสันติสุข คือ หนทางสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งอุบลราชธานีเมืองแห่งธรรมสามารถนำหลักคิดของครูบาอจารย์ สายพระกัมมัฏฐานส่งต่อแนวคิด สร้างสันติสันติสุข และสันติภาพต่อไป

พระเมธีวรญาณ รองเจ้าคณะภาค 10 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์ราชวรมหาวิหาร คณะบดีคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ประธานกรรมการบริหารสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า การเสวนาครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากหนึ่งปีที่แล้วที่จุดเทียนธรรม ครั้งนี้เป็นการต่อเทียนธรรมไปสู่เมืองกัมมัฏฐานโลก ซึ่งคงไม่ไกลเกินฝันหากมีความมือร่วมใจในพระพุทธศาสนา

ทำไมต้องเป็นสัมมาวาทะ เป็นคำที่รัฐบาลอินเดียกับญี่ปุ่นใช้หารือร่วมกันในการสร้างสันติภาพ หรือ SAMVAD หากเป็นภาษาบาลี คือคำว่า สัมวาทะ เป็นศัพท์ที่มีความหมายทั้งสาระสำคัญและการปฏิบัติเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในสังคมสะมะแปลว่าสงบ เรียบร้อย ดีงาม วาทะคือ การพูด หรือการสร้างความสงบ สัมมาวาทะ จึงเป็นการพูดคุยกันเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ สันติ ถ้าไทยคือ สานเสวนาสาระสำคัญคือการฟัง เพื่อให้ทะลุเข้าถึงหัวใจ โดยไม่นำประเด็นปัญหามาเป็นหัวข้อหลักในการพูดคุย เพราะจะไม่สามารถจบลงได้ เนื่องจากทุกฝ่ายจะดึงเข้าปัญหาของตัวเอง สานเสวนา จึงการเป็นการฟังที่ครบถ้วน รอบด้าน สัมวาทะจึงเน้นการฟัง หรือ สุตะ ที่ต้องเป็นพหุสุตะ หรือ พหูสุตะ ฟังให้ทะลุทะลวงถึงหัวใจ แล้วค่อยตกผลึกในการเสวนา หรือสัมวาทะ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นทางการ อาจเป็นการพูดคุยสื่อสารเพียงสองคน เพื่อร่วมกันคิดและหาทางออกของปัญหานั้น เป็นการแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ด้วยสันติสุข

เหตุที่ต้องสัมมาวาทะ เรื่อง สติ สันติ สันติสุข สันติภาพ นั้น การจุดเทียนธรรมและต่อเทียนธรรมนำอุบลราชราชธานีไปสู่เมืองกัมมัฏฐานโลก เพื่อนำคำสอนของพระพุทธศาสนา ที่ต้องนำมาใช้ในการทำงานเพื่อจุดประกายไปยังจังหวัดอื่น ประกอบกับอุบลราชธานีเป็นเมืองสำคัญในการรับเสด็จ พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ จึงเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่พระพุทธเจ้าและสาวกเสด็จมา เพื่อพระพุทธศาสนา จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการต่อยอดให้เกิดความต่อเนื่อง จากนี้ไปเป็นการทำงานเพื่อถวายพระพุทธเจ้าที่พระองค์เสด็จมาเป็นประมุข เป็นประธาน เป็นขวัญกำลังใจให้ชาวอุบลราชธานี เป็นการสร้างกำลังใจ และศรัทธาอันมั่นคงในพระพุทธศาสนาเพื่อความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองในจังหวัดอุบลราชธานี

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวถึง 18 ปีที่แล้วมีโอกาสบวชที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ซึ่งคำว่า ธรรมวิชัย นั้นมาจากพระเจ้าอโศกมหาราช ที่รวบรวมประเทศในชมพูทวีเป็นหนึ่งเดียว แล้วมานับถือศาสนาพุทธ และได้พิสูจน์ว่าอำนาจที่ท่านมีไม่ใช่อำนาจที่แท้จริง เกิดคำว่าธรรมวิชัย ชนะโดยธรรม และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในลุ่มน้ำโขง เปรียบเสมือนมีพ่อและแม่คนเดียวกัน ในสุวรรณภูมิแผ่นดินธรรม

ธรรมวิชัย นำสู่ศตวรรษแห่งธรรม เพราะนายกรัฐมนตรี โมดี ของอินเดีย ฝันจะเห็นเอเชียเป็นหนึ่งเดียว ด้วยคำว่าศตวรรษแห่งเชีย โดยใช้ธรรมะของพระพุทธเจ้าเชื่อมโยงทั้งหมด ศตวรรษแห่งธรรมเกิดจากการคิด และเชื่อว่าการเสด็จมาของการประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในประเทศไทย เป็นพุทธประสงค์ของพระพุทธเจ้า ไว้วางพระทัยให้พุทธบริษัท 4 ในจังหวัดอุบลราชธานีต่อเทียนเล่มแรก สว่างไสวไปทั่วประเทศจนถึงประเทศเพื่อนบ้านของเรา ขอให้ชาวอุบลราชธานีภูมิใจ เชื่อในอริยบุคคลของชาวอุบล หากมีสติละนิวรณ์ 5 ยกระดับเห็นการเกิดดับทุกๆอารมณ์ เพื่อยำระดับจิตเข้าสู่วิปัสสนา ชาวอุบลจะเป็นเทียนเล่มแรกให้ส่วงไสว ในลุ่มน้ำโขง กลับไปสู่ลุ่มน้ำสินธุและลุ่มน้ำคงคาต่อไป รวมถึงทุกชาติ ศาสนา และทุกสรรพสัตว์

ดร.สุภชัย ยังเล่าถึงการใช้หลักธรรมะขับเคลื่อนการทำงานในประเทศลุ่มน้ำโขง มาจากการเห็นว่า มนุษย์ทุกคน เป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตาย และทำงานด้วยแก่นของธรรมะ รับรู้ลมหายใจบนความเคลื่อนไหวตลอดเวลา และทำให้ประสบความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม มนุษย์ทุกคนต้องเคารพกันและมีสติ รับฟังซึ่งกันและกัน แม้บางครั้งจะมีอัตตา และอยากส่งเสียงถึงผู้นำในทุกมิติ ทั้งศาสนาการเมือง ศาสนา และทั่วไป ต้องมีสติให้มาก เพราะถึงมีสงครามท้ายสุดต้องมานั่งเจรจากัน การมานั่งพูดคุย เป้นการตั้งสติในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังที่จะนำพาเราไป ว่าท้ายสุดจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน จึงฝันว่าผู้นำรับฟังเพื่อความมีสติ และเกิดสันติสุข และสันติภาพ

พระครูปลัดสุวัฒนอดิเรกคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวก สาขาวัดหนองป่าพงที่ 7 กล่าวถึง การใช้ชีวิตอย่างมีสติ นำไปสู่สันติสุข และสันติภาพ ว่า เราโชคดีที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ที่ผ่านมาได้เดินทางไปแสดงธรรมใน 8 ประเทศ เพื่อเผยแผ่ธรรมะที่เป็นเสมือนยาบำรุงหัวใจ คำสอนพระพุทธเจ้ามีความหลากหลายที่ควรหยิบมาปฏิบัติ ให้เกิดผลจึงจะเกิดประโยชน์ สัมมาวาทะที่จะกล่าวในวันนี้เป็นหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนให้มนุษย์เรามีเป็นเบื้องต้นที่จะทำให้เกิดสติ สันติสุข และสันติภาพ คือ มนุษยธรรม หรือ ธรรมของมนุษย์ทั้งหลาย ที่จะทำให้เป็นมนุษย์ที่มีคุณภาพและศักยภาพ ใน 4 ข้อหลัก หรือ มนุษยธรรม 4 ประการ ข้อแรกตั้งแต่ผู้นำลงมา คือ สัจจะ หมายถึง ความซื่อสัตย์ จริงใจ สุจริตใจ ข้อ 2 ธัมมะ คือการข่มใจตนเอง ข้อ 3 ขันติ ข้อ 4 จาคะหรือความเสียสละ ขอให้ลูกหลานนำไปใช้ ประกอบกับการมีศีล 5 บริบูรณ์
ต้องมีศรัทธาที่มั่นคง มีศีลสม่ำเสมอ พูด คิด ด้วยสติปัญญาไม่ใช้อารมณ์ มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ประธานสภาขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม จังหวัดอุบลราชธานีกล่าวว่า สัมมาวาทะ หรือ SAMVAD เมืองอุบลราชธานี เกิดจากการคิดดี สู่คำพูดที่ดี โลกต้องการสถานที่สงบ คนที่มาอุบลราชธานีเพราะต้องการสถานที่สงบ ไม่อยากให้คนอุบลฯหลงไปกับข้อมูลข่าวสารที่นำไปสู่ความขัดแย้ง อุบลฯเมืองกัมมัฏฐานโลกนั้น ในทุกๆปี จะมีการแห่เทียนพรรษา ซึ่งเป็นการต่อเทียนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สถานที่ที่เป็นเส้นทางพระพุทธเจ้าต่างๆ พบว่ามีการเข้าไปเยี่ยนเยียนและปฏิบัติ เช่น ที่ภูหล่น กำลังสร้างเมืองแห่งความร่มเย็นที่มีป่า เพื่อเผยแผ่คำสอนเปลี่ยนสงครามเป็นความร่มเย็น ให้หมู่บ้านภูหล่น เป็นที่ปฏิบัติธรร จึงมีการเตรียมความพร้อมรองรับกิจกรรม กัมมัฏฐานโลกที่มีประเพณีควบคู่กัน และปีนี้จัดแห่เทียนแบบรักษ์โลก เน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมืองกัมมัฏฐานโลกจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอุบลราชธานีด้วย ซึ่งได้ต่อเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดให้นำไปเป็นแผนของจังหวัดด้วย

คุณเมตตา เมืองเจริญ รองประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ประธานมูลนิธิหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต 150 ปี ชาตกาล จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า คนอุบลราชธานี เป็นคนรักบ้านเกิด อยากเติบโต และกลับมาพัฒนาบ้านเกิด จึงมีนักธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ และการที่มีคนอยากมาอุบลราชธานี เพราะเป็นถิ่นกำเนิดของครูบาอาจารย์ อาหาร รอยยิ้ม วัฒนธรรมของชาวอุบลราชธานี ด้วยศักยภาพเมืองอาจไม่สามารถเติบโตได้เหมือนหลายจังหวัดเพราะขับเคลื่อนด้วยการเกษตรแต่มีแหล่งท่องเที่ยวสัมพันธ์กับศาสนา หลายองค์กรพยายามเชื่อมต่อความเป็นเมืองพุทธ เข้ากับกิจกรรมต่างๆอยู่ตลอดเวลา และมีการสร้างภาคีเครือข่าย โดยมีเครือข่ายคือโรงพยาบาล ที่จะเติบโตเป็น Hub หรือศูนย์กลางของการรักษา เช่นจากสปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งไม่ได้มาเพียงการรักษาพยาบาลแต่มาเพื่อการท่องเที่ยวในลักษณะแพ็คเกจรวมที่แฝงไว้ด้วยความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา

ผศ.ดร.ปิยณัฐ สร้อยคำ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาอินเดีย แห่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวว่า บทบาทของมหาวิทยาลัยคือการสร้างองค์ความรู้ สร้างคนซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่เน้นการสร้างคน คือ สติ ปัญญาเป็นเมืองแห่งธรรม และความพอเพียง เป็นการสร้างองค์ความรู้ที่ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่เป็นลูกหลานของเมืองอุบลฯ เมืองแห่งนักปราชญ์ เพื่อนำไปสู่ความมั่งคั่งยั่งยืน และช่วยขับเคลื่อน อุบลราชธานีให้เป็นเมืองกัมมัฏฐานโลกทั้งในจังหวัด และประเทศในรอบอ่าวเบงกอล 7 ประเทศ ได้ตกลงกัน ซึ่งมีข้อเสนอหนึ่งจากผู้ที่มาจากคลังปัญญาว่า ควรที่จะเชื่อมเมืองที่มีลักษณะเป็นสันติ เป็นเครือข่ายเมืองสันติภาพโลก จึงเป็นการขับเคลื่อนของมหาวิทยาลัยทั้งในระดับท้องถิ่น เชื่อมโยงไปในระดับสากล

ดร.อลงกต ชูแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ผู้ช่วยเลขาธิการรฝ่ายกิจการต่างประเทศ สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 สังเคราะห์การเสวนาครั้งนี้ว่า การเสวนาครั้งนี้ เป็นการสนับสนุน การประกาศศตวรรษแห่งธรรมที่ขับเคลื่อนโดยสถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 ทำให้เกิดเรือประกาศธรรมในทะเลอันดามันจังหวัดกระบี่ ในการประชุมSAMVAD ปีที่แล้ว และจากวิกฤตความขัดแย้ง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางจิตของมนุษย์คือทางออก ซึ่งเป็นที่มาของการประชุมSAMVAD ที่สหประชาชาติ ซึ่งผู้นำศาสนาจากทุกประเทศ ฝากความหวังที่ไทยในการขับเคลื่อนธรรมะ เพื่อสันติภาพ และเป็นหลักคิดที่จะนำไปสู่สัมวาทะ และธรรมะขับเคลื่อน

พระเมธีวรญาณ กล่าวสรุปในการเสวนาว่า ธรรมะคือธรรมชาติ สิ่งที่อยู่รอบตัวและมีความเกี่ยวข้อง ทั้งธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่ของพระโพธิสัตว์ก็คือการตรัสรู้ธรรมะที่มีอยู่ในธรรมชาติ และผลกระทบที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่คือเรื่องกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นี่คือหลักธรรมะในชีวิตประจำวัน สตินำไปสู่สันติสุข สันติภาพได้อย่างไร ในเรื่องของสติโดยความหมายคือ การระลึกได้ในสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ระลึกในสิ่งที่มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาและตัวเรา ทำให้สังคมมีความเจริญรุ่งเรื่อง เราอาจคุ้นเคยกับคำว่าสัตยา ความซื่อสัตย์ ความจริงย่อมเอาชนะทุกสิ่ง เราคุ้นเคยกับคำว่าสัจจะ วาจาจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย คำทั้งหลายมาจากคำว่าสติ ความระลึกได้ เพราะฉะนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสติ ซึ่งสร้างสันติภาพ และสันติสุขในตัวบุคคล เช่นการบรรลุอริยบุคคล แล้วส่งสาวกทั้งหลายไปประกาศเผยแผ่พระศาสนาเพื่อให้เกิดสันติภาพ

อุบลราชธานีต้องเป็นเมืองกัมมัฏฐานโลก เพราะอุบลราชธานี มีความพิเศษ 3 อย่างคือ คนอุบลราชธานีมีใจใฝ่เรื่องพระศาสนา มีศรัทธาอันมั่นคงไม่หวั่นไหวตามกาลเวลา เปรียบเสมือนภูผาศิลาแท่งทึบไม่หวั่นไหวจากลมและแดดที่มาจากทิศทั้ง 4 อย่างที่สองคือชาวอุบลฯมีความรู้พิเศษที่สามารถกำจัดอวิชชาได้ คือกำจัดในสิ่งที่ไไม่เป็นประโยชน์หรือก่อให้เกิดโทษ ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับคนอื่น อย่างที่สามคือ ชาวอุบลมีความกล้าหาญ องอาจ โดยเฉพาะความกล้าหาญในธรรม การใช้ชีวิต ทำตามหน้าที่ตนเอง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของคนใดคนหนึ่ง เพราะเรามีใจเรามีความรู้ เราจึงต้องมีความกล้าหาญ โดยศึกษาดูจากหลวงปู่มั่น หลวงปู่ชาหลวงปู่เสาร์ อุบลาชธานียังเป็นเมืองที่เห็นแสงแรก ฉะนั้นอุบลราชธานีจึงมีทั้งการตื่น รู้ และเบิกบาน จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นเมืองกัมมัฏฐานโลก

จากนั้น ดร.สุภชัย ได้ประกาศจุดเทียนธรรมอุบลราชธานีเมืองกัมมัฏฐานโลก และปิดการเสวนา ว่า การเสวนาครั้งนี้เป็นการปลุกเร้าศรัทธาอันตั้งมั่น การประกาศวันนี้ได้ทำให้เห็นแสงสว่าง และเชื่อว่าเทียนที่เป็นสัญลักษณ์มีความสมบูรณ์มากในการต่อเทียนให้สว่างไสวไปทั่วจังหวัดอุบลราชธานี และสว่างไสวไปทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำคงคา และทุกลุ่มน้ำทั่วทั้งโลก ได้ศรัทธาที่ตั้งมั่นทั้งความรู้ สติปัญญา ความกล้าหาญ มั่นใจว่า อุบลราชธานีจะเป็นแสงสว่างแห่งแรกให้กับพวกเราชาวพุทธกึ่งพุทธกาล ได้ให้พุทธศาสนาได้ต่อยอดไปอีก 2,500 ปีพุทธกาลอย่างแน่นอน โดยใช้ชีวิตอย่างมีสติ และผู้นำรู้จักใช้ธรรมเป็นอำนาจ ไม่ใช้อำนาจเป็นธรรมเหมือนในปัจจุบันนี้ ซึ่งเราหลงอยู่ในอัตตา ราคะ โทสะ โมหะหรืออวิชชา ชาวอุบลฯทำได้ และเพื่อแผ่นดินสยามที่ทุกคนได้อาศัยพระบรมโพธิสมภาร วันนี้พระมหากษัตริย์ของเรามีพระประสงค์ให้ธรรมะนาวา เรือแห่งธรรมจากแผ่นดินสยามได้นำพาออกมหาสมุทรทั้ง 4 ต่อไปเชื่อว่าด้วยความมุ่งมั่นของเราทุกคนเราทำได้

งานเสวนาครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานสืบเนื่องจากความสำเร็จในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี และการเสวนา “ธรรมวิชัย สู่ศตวรรษแห่งธรรม” และพิธีจุดเทียนธรรม ครั้งที่ 1 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อขับเคลื่อนอุบลราชธานีสู่การเป็นเมืองกัมมัฏฐานโลก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า