ศาสนา-ศิลปวัฒนธรรม

กรมศิลปากร เปิดตัว ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ทุนทางวัฒนธรรมเพื่อเป็นการรักษาองค์ความรู้ ทางศิลปะวัฒนธรรมที่กำลังจะสูญหาย และจัดจำหน่ายเป็นของที่ระลึก

นายพนมบุตร จันทรโชติอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยเรื่องดังกล่าว ในงานแถลงข่าว ฉลองครบรอบ 114 ปี แห่งการก่อตั้งกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ณพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร


กรมศิลปากร ถือกำเนิด เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดตั้งเมื่อวันที่ 27 มีนาคมพ.ศ 2454
จุดประสงค์เพื่อการอนุรักษ์และสืบทอดมรดก ศิลปวัฒนธรรมสาขาต่างๆของชาติ

ส่วนผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ที่กรมศิลปากร นำขึ้นมา จัดทำขึ้นนอกจากเพื่อการอนุรักษ์แล้ว จะจำหน่ายเป็นของที่ระลึก

ผลิตภัณฑ์ต้นแบบเป็นผลงานของสำนักงานช่างสิบหมู่ โดยใช้ต้นแบบจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติต่างๆ เช่นพิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอู่ทองจังหวัดสุพรรณบุรี และจะขยาย ไปสู่พิพิธภัณฑ์ แห่งชาติ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ต่อไป

อย่างไรก็ตามในช่วง ที่ผ่านมา กรมศิลปากรไม่ได้หยุดยั้งในการพัฒนา สถานที่กรมศิลป์รับผิดชอบ เช่น ปรับปรุงพัฒนาโรงละครแห่งชาติ ให้มีมาตรฐาน ระดับสากล และจะเปิดตัวภายในเร็วๆนี้
คาดว่าจะจัดแสดงละครเรื่องผู้ชนะสิบทิศซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชน ซึ่งไม่ได้จัดแสดงมานาน

นอกจากนั้นจะเปิดแหล่งเรือเดินสมุทรโบราณพนม-สุรินทร์ จังหวัดสมุทรสาครให้เป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่
เรือลำนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า ประเทศไทย ได้เป็นแหล่งการค้าทางมหาสมุทรกับประเทศต่างๆ พันปีมาแล้ว

อีกอย่างหนึ่ง วางแผน จัดทำสารานุกรม เพื่อศึกษาเรื่องคนก่อนประวัติศาสตร์ของประเทศไทยจากยุคบุกเบิกสู่ยุคแห่งการต่อยอดและพัฒนาโดยนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาใช้
การจัดทำเรื่องนี้เนื่องจากว่าได้พบโครงกระดูกมนุษย์ อายุ 29,000 ปี เมื่อเร็วๆนี้ ที่สามรัอยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

อธิบดีกรมศิลปากร พนมบุตร กล่าวว่า ในวาระครบ 114 ปี ถือว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จ อย่างยิ่ง เพราะกรมศิลปากรได้พัฒนาและต่อยอดโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ก็ยังได้รับความร่วมมือจากวัดต่างๆในการ ช่วยเหลือ ในการบูรณะโบราณสถานภายในวัดโดยร่วมมือกับกรมศิลปากรอีกด้วย
ที่วัดให้ความร่วมมือแบบนี้เท่ากับช่วยแบ่งเบาภาระงบประมาณ ของกรมศิลกรที่ไม่ค่อยเพียงพอกับการรักษาและอนุรักษ์โบราณสถานต่างที่มีจำนวนมาก
นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากรลำดับ 21 (พศ. 2545-2549) ชื่นชมผู้นำกรมศิลปากรยุคต่อมา ที่เดินหน้ารักษาอนุรักษ์โบราณสถานต่างๆ สมกับเจตนารมณ์ขององค์ผู้ให้กำเนิดกรมศิลปากรเมื่อ 114 ปีใรแล้ว


ในฐานะที่ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมศิลปากร ใน ในโอกาสมหามงคล ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ในพระบาทสมเด็จ พระบรมชนากาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 กรมศิลปากร ได้ดำเนินการ จัดงานต่างๆ เพื่อถวาย ในวาระอันเป็นมงคลนั้น

แต่สิ่งที่น่าภาคภูมิใจสำหรับตัวท่านอธิบดีอารักษ์ คือได้ถวายพระราชสมัญญานาม แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสมหามงคลนั้น ว่า “พระบิดา แห่งการอนุรักษ์มรดกไทย”
โดยท่านอารักษ์กล่าวว่า เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ของตัวท่านเอง ในขณะที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร ลำดับที่ 21

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เอง

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า