เสวนาธรรม “ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม” กระบี่ประตูอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ พญาภุชงค์นาคราช
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 และเอกอัคราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ประกาศในเวทีเสวนาธรรม จังหวัดกระบี่ ผสานความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียว ร่วมหมุนวงล้อธรรมสู่ สันติภาพโลก
การเสวนาธรรม “ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม” กระบี่ประตูอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ พญาภุชงค์นาคราช เชิดชูมหาราชแห่งธรรม ณ โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธารา กอล์ฟแอนด์ สปา รีสอร์ท
ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวถึงที่มาของการเสวนาครั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายถึงแนวคิดในการสร้างศตวรรษแห่งธรรมหลังจากการทำงานในช่วงที่ผ่านมา สถาบันฯได้จัดงานธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ลุ่มน้ำโขงมาแล้ว 2 ครั้งและจัดธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาสู่ลุ่มน้ำโขงเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งการทำงานช่วงที่ผ่านมา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในบานะรองเลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 มีบทบาทร่วมผลักดันโครงการ ซึ่งประโยชน์จะตกอยู่กับแผ่นดินไทย รัฐบาลไทยและลูกหลาน แม้จะสถานการณ์โลกจะเกิดสงครามความขัดแย้งต่างๆ
ความตั้งใจในการทำงานในวันนี้ไม่ได้ให้ต้องการให้ทุกคนมานับถือพระพุทธศาสนาเพราะทุกศาสนาต่างมีธรรมะ แต่เป็นการวางแนวทางเพื่อบั้นปลายชีวิตให้ทุกคนเข้าสู่อาริยะ อย่างน้อยต้องโสดาบันได้ วันนี้จึงต้องใช้องค์ความรู้สู้กับอกุสลจิตและมิจฉาทิฐิให้ได้
ขณะที่ Mr.Nagesh Singh เอกอัคราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์“ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม” ถึงความร่วมมือของการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ จากอินเดียมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย ซึ่งชาวอินเดียจำนวนมากรู้สึกตื่นเต้นกับผลสำเร็จของการจัดโครงการธรรมยาตราครั้ง 3 ซึ่งรัฐบาลอินเดียให้ความสำคัญมากถึงผลที่เกิดขึ้นที่คนไทยกว่า 4 ล้านคนเข้ามากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และการเริามโครงการธรรมะวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรมเพื่อทำให้โลกดีขึ้น เกิดสันติภาพ ปราศจากความขัดแย้ง ความยากจน หิวโหย โรคภัย และการมที่อยุ่อาศัย ด้วยความมุ่งมั่นและทำงานหนักของ ดร.สุภชัย มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จใน ธรรมวิชัยหรือชัยชนะของะรรม
พระพุทะศาสนามีต้นกำเนิดจากอินเดียด้วยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทะเจ้เกี่ยวกับสสันติภาพ การไม่ใช้ความรุนแรง ความรักและความเมตตา คำสอนนี้ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก อินเดียอาจถือได้ว่าเป็นสายใยแห่งความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดระหว่างสองประเทศ
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ มาในบทบาทของรองเลขาะิการสถาบันโพธิคยาฯ ซึ่งรัฐบาลอินเดียให้ความสำคัญกับราชวงศ์ไทยอย่างมาก สอดคล้องกับเป้าหมายของสถาบันที่ต้องการให้การเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ เป็นการเฉลิมฉลอง วันเฉลิมพระชนมพรรษาของรัชกาลที่ 10 โดยพานพุ่มทั้งหมดของพระบรมวงศานุวงศ์ถูกอัยเชิญไว้ที่เดียวกับพระบรมสารีริกธาตุที่พิพิะภัณฑ์แห่งชาติอินเดีย สิ่งที่อิเดียไห้ให้ความสำคัยจึงเป็นความร่วมมือที่สำคัยระหว่างรับบาลไทยและรับบาลอินเดีย รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับทั้งโลก เพราะามารถเป็ตัวเชื่อมให้การนำเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้สอนให้เกิดผลเปป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่องธรรมยาตราที่เชื่อมได้ในดินแดนลุ่มน้ำโขง แต่ครั้งที่ 3 เป็นการเชื่อมคงคากับแม่โขง และอาจจะเกิดธรรมยาตราครั้งที่ 4 ซึ่งจะมีการพูดคุยกับท่านทูตอินเดีต่อไป เป็นการร่วมกันหมุนวงล้อธรรมต่อไป ผ่านบทบาทของสถาบันดพธิคยาวิชชาลัย 980
การเสวนา “ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม” โดย พระเมธีวรญาณ กล่าวว่า สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ได้กระตุ้นเรื่องนี้ให้อยู่ในกระแสไม่เพียงชาวไทยแต่รวมถึงต่างประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเป็นการสืบสารคำสอนก่อนท่านปรินิพพานมาถึงสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ได้ประกาศเผยแผ่พระพุทะศาสนา 9 สาย ทรงมองเห็นพระพุทะศาสนาที่จะเกิดขึ้น จึงเกิดการสังคยานาพระพุทธศาสนา เพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนาสูญหายไปจากโลกนี้ เป็นวิสัยทัศน์ของพระเจ้าอโศกที่กว้างไกล
ปัจจุบันพระมหากษัตริย์ทุกยุคสมัยได้สังคยานา หากไม่ประกาศเผยแผ่พระพุทะศาสนาหากประเทศมีอันเป็นไปหลักคำสอนก็ยังปรากฎในประเทศอื่นๆ จึงให้สังคยานาโดยการใช้อักษรไทยเป็นึรั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 ให้ใช้อักษรไทยในการจารึกพระไตรปิฏกแล้วส่งไปประเทศต่างๆ แม้สยามประเทศเป็นอะไรก็จะมีหลักฐานการนับถือพระพุทธศาสนา ฉะนั้น จึงมีวามสำคัญ
ปัจจุบันสถาบันดพธิคยาวิชชาลัย เอาจริงจังเรื่องนี้ แม้จะฝันรวมหลายประเทสที่จะรวมการนับถือพระพุทธศาสนาให้กลับมาตามแนวทางพระพุทธเจ้า แต่ไม่ฝันเกินไกลถ้ามีพลังความเชื่อมั่นและศรัทธา เพราะพระองค์ได้วางแนวทางเผยแผ่ชัดเจน ปัญหาเดียวคือ พลังศรัทธาไม่เข้มแข็ง เต็มร้อย ศตวรรษแห่งธรรมคือวันนี้และวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ศตวรรษวันนี้ คนเราที่สามารถพัมนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถพัมนาเต็มที่คือคนมีสติเต็มร้อย ดังนั้นมีสตางค์แล้วต้องมีสติ แล้วจะใช้ให้ถูกทางด้วยสติ เมื่อมัสติสตวรรษห่งะรรมเกิดขึ้นแล้ว ส่วนอนาคตสร้างได้ด้วยเหตุที่ดีในวันนี้สู่ผลที่ดีในวันหน้าและทำให้การทำงานประสบผลสำเร็จ จึงอยู่ที่ศรัทธา ที่ต้องปลูกขึ้นมา ตามหลักพระพุทธศาสนาต้องฟังในสิ่งที่มีประโยชน์ จากสัตบุรุษ คนดี มีความรุ้ความามารถ อย่ามองว่าารฟังไม่มีความสำคัญ เหมือนครั้งพุทะกาลที่เกิดสาวกคือผู้ฟัง เกิดกระบวนการเรียนรุ้ ควมรงจำในสิ่งที่ดี มีประโยชนืแล้วฝึกนำมาใช้สื่อสร แลกเปลี่ยนประสบการณ์แล้วมาพิจารณาด้วยใจ ว่ามีข้อเท้จจริงอย่างไร ใช้ประโยชนมากน้อยแต่ไหน นั่นแหละคือ ศัทธรรมะสวนะ เพื่อให้ศรัทธามั่นครงไม่ตามกระแส ต้องปรับศรัทะาให้มุ่งหน้าสู่พระรัตนตรัย เมื่อศรัทะาเกิดท้อแท้ต้องหมั่นคบหาสัตบุรุษบ่อยๆกับคนดีมความเข้าใจต้องหมั่นคบหากับสัตบุรุษหรือกัลยาณมิตร แล้วจะรักษาศรัทธาให้คงอยู่ต่อไป ถ้าศรัทธามากเกินไปก็ขจัดกับศรัทะด้วยปัญญาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ด้วยศรรัทธา เพราะเแพาะนั้นศตวรรษแห่งธรรมต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาะิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า ศรัทธาเกิดจากแผ่นดินอินเดีย ได้พลังจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในพระรัตนตรัย และมั่นได้เพราะเริ่มมความเข้าใจในอารมณ์อาณาปานสติที่บวชปี 2019 เกิดการค้นพบทางปัญญาเหมือนมีพลังพิเศษ เกิดการเรียนรู้องคืภาวนา เริ่มรู้สึกว่าการเป็นอริยบุคคลที่ละสังดยชน์เบื้องต้นได้ไม่ยาก ฉะนั้นศาสนาพุทะเป็นศาสนาของจักรวาลจริงๆ ฉะนั้นพลังศรัทธาที่เกิดขึ้นจากครูบาอาจารย์และเพื่อนๆที่ร่วมก่อตั้งสถาบันขึ้นมา ทำอย่างไรภิกษุ ภิกษุณี อุบาสกอุบาสิกา ที่นับถือพุทธ จะทำอย่างไร ซึ่งศตวรรษแห่งะรรมเกิดได้แต่ต้องเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจก่อน ชีวิตอยู่การแข่งขันทางธุรกิจมาทั้งชีวิตแต่วันนี้มามือเปล่าไปตัวเปล่าเอาไปไม่ได้เลยในภพชาติหน้านอกจากบุญกุศล ปัจจุบันมีการใช้อำนาจและใช้เงินเพื่ออำนาจ สิ่งที่เราต้องารทำคือใช้ะรรมเป็นอำนาจไม่ใช้อำนาจเป็นธรรม
มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รองเลขาะิการสถาบันฯ กล่าวว่า ปีนี้ครบ 72 พรรษา กระทรวงการต่างประเทสและภาคเอกชน ได้ร่วมทำพระตรปิฎกฉบับสมบูรณืและมอบให้รมว.ต่างประเทศเกาหลี
ศตวรรษแห่งเอเชียเป็นความคิดของท่านโมดี้ ท่านทำให้เห็นว่าเรากำลังเข้าสู่ศตวรรษแห่งเอเชียคือการรวมเอเชียเป็หนึ่ง ทุกประเทศต้องให้ความสำคัยกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงไดด้คุยกันศตวรรษแห่งเอเชียให้เกิดขึ้น ซึ่งสถาบันทำมาแล้ว 2 ครั้งคือใช้พระพุทะศาสนาเป็นตัวเชื่อม 5 ประเทศ ไทย ลาวกัมพูชา เวียดนาม ทำให้เห็นภาพะรรมยาตรา 5 แผ่นดินทั้ง 2 ครั้งเป็นการทำในสิ่งที่นายกโมดี้ต้องการได้เห้น ให้เห็นว่าโลกถึงเลาแล้วที่จะหาทางแก้ปัหาความขัดแย้ง และได้คุยเรื่องธรรมยาตราครั้งที่ 3 คือการอัยเชิยพระบรมสารีริกธาตุ คงคาสู่ลุ่มน้ำโขงเป็นจุดประกาสสำคัญของเซนจูรี่ออฟเอเชีย ในศตวรราที่ 21 ขึ้น
เพราะฉะนั้นศตวรราแห่งะรรมไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน 1 ปีที่น่วมกันมาใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้นดดยเรามองว่า ธรรมยาตราคั้งที่ 4 จะเป็นอะไรและใหญ่ยิ่งขึ้นได้อย่างงไร ซึ่งไดหารือกันไปบ้างแล้ว และจะเปิดตัวศตวรรษ ให้เป็นเซนจูรี่ออฟเอเชียให้ได้ยิ่งขึ้น
สถาบันโพธิคยานั้นโครงการธรรมยาตราเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมต่ออนุภูมิภาคและจะใช้โครงการนี้ผลักดันต่อไป
สิ่งที่ท่านสายเพชรพูดนั้นสำคัญมากและผมก็ใช้หลักนี้ หลักะรรมของพระพุทธเจ้า ศีลสามาธิ ปัญญา คิดดี ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ติดยึด ไม่ต้องการมี ไม่ต้องการเป็น คือกุศลจิต เมื่อไหร่ที่มีศีลละแล้วซึ่งกิเลส สมาธิจะมา นั่นคือเส้นทางที่จะไปสู่วิสด้อม คือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แล้วจะทำทุกอยางบนความถูกต้อง การถอดหัวโขนผมจะไม่ยอมติดยึดในตำแหน่ง อำนาจและสตางค์ ไม่แน่ใจทำได้หรือเปล่าแต่จะพยายาม นั่นคือศีลและกุศลจิตเชื่อทุกท่านทำได้แน่นอน
พระเมธีวรญาณ กล่าวว่า สถาบันโพธิคยา เป้าหมายจากที่พูดคุยกับดร.สุภชัย คือ สร้างคนให้เป็นเทวดาเป้นพระพรหม อาศัยหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ต้องมีหิริ โอ๊ตปะละอายต่อบาปสิ่งไม่ดี และความความเกรงกลัวในสิ่งไม่ดีในอกุศลกรรมย่อมได้รับผลของกรรม ถ้ามีคุณธรรมสองอย่างนี้ถือเป็นเทวดาเป็นเทพ เป็นพรหมก็สร้างเมตตากรุณา มุทิตา อุเบกขา
สร้างเป็นเทวดาอย่างไร ยกสถานะพญานาคเป็นเทพได้ นแล้วมนุษย์มีสักยภาพความสามารถจะทำได้ไดหรือ
อย่างที่สองคือ ทำคนให้บรรลุะรรมในชาตินี้ เรานับถือพระพุทธศาสนาจะบรรลุธรรมอย่างไร ก็มีระดับที่ 1 คือธรรมยาตรา งานสถาบันสร้างความเข้าใจหลักพระพุทธศาสนาในดินแดนลุ่มน้ำโขงคือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
การบรรลุธรรมในส่วนที่เป็นอริยบุคคล เบื้องต้นโสดาบันไปได้ไม่ยาก ฟังจากคุณอ๊อดมา วันนี้ได้แล้วคุณอ๊อดวันนี้ ต้องมีความเชื่อมที่มั่นคงในพระรัตนตรัย บวกกับการมีศีลนั่นคือโสดาบันเข้าสู่อริยบุคคลแบบไม่หวนกลับมา จะบรรลุเป้าหมายแน่นอน
ปาฐกถาพิเศษ หัวใจสำคัญของการร่วมสร้างศตวรรษแห่งธรรม โดย พระอุปติสสะเถโรประธานพุทธสถานสาญจี กล่าวว่า ให้ความสำญกับแนวคิดธรรมวิชัยเป็นแนวคิดอันยิ่งให่และคุณสุภชัยคือพระเจ้าอดศกน้อยๆท่านหนึ่ง การที่พระมหามินทระ บุตรพะเจ้าอโศกไปศรีลังกาก็เปฌนธรรมยาตรา และดีใจที่มีโครงการเพราะเชื่อมผู้คนหลายประเทศด้วยความรักเพื่อมนุษยชาติ ปัจจุบันโลกเราแบ่งด้วยสัญชาติ ศาสนา และความรุนแรง
นายกอินเดีย ท่านอนาคาริก และแอมเบคก้ามีความตั้งใจฟื้นฟูศาสนามาอินเดีย และหวังให้ 2 ประเทศใกล้ชิดกันมากจึ้น
รางวัลเป็นของชาวสาญจีและชาวมัธยะประเทศด้วย มีธนบัตร 200 รูป มีสถูปสาญจีปรากฎในธนบัตรอินเดีย ที่มีธรรมยาตรา แลขอความสัมพันธ์ไทยอินเดียและธรรมวิชัยขจรขจายไปมากขึ้น
เสวนาธรรม “กระบี่ประตูอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ พญาภุชงค์นาคราช เชิดชูมหาราชแห่งธรรม”
ดร.สุภชัย เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงอารยธรรมโลก เส้นทางเรือ จะเดินทางมาเข้าสู่ประตูอารยธรรมโบราณ
อลงกต ชูแก้ว มีหนังสือ2 เล่ม เรื่องเมืองตะโกลา ดินแดนการเชื่อมโยงการค้าและวัฒนธรรม
ดร.สุภชัย กล่าวว่าการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุมากระบี่ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นพุทธประสงค์ของพระองค์ท่าน กระบี่มีมุสลิม 50% ทำไมมาที่นี่ เราะมีโรงแรมอยู่ และที่ขอเลยคืออุบลราชธานี เพราะเป้นสัญลักษณ์ของการเชื่อมคงคาสู่แม่น้ำโขง และเป็นแสงแรก และเป็นดินแดนพระอริยสงฆ์จำนวนมาก อุบลคือสัญลักษณ์ของการตรัสรู้ และหลวงปู่ผ่องแนะนำให้ธรรมยาตรา เกิดบ้านบุษกร อ.ตระกาลพืชผล อุบลราชธานี และจุดเทียนเล่มแรกในการประกาสดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่มากระบี่จะเป็นการเปลี่ยนโฉมกระบี่ให้กลับมายิ่งใหญ่ ตะโกลา การเสด็จครั้งนี้จะเป้นการเบิกฟ้า และจากวิจัยพญานาคเกิดการพบแบบธรรมชาติ ที่เขาหงอนนาค หางนาค สะดือนาค ตานาค ฝันที่จะเห็นการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์นี้กลับมา เพื่อสร้างสรรค์เส้นทางการท่องเที่ยว
นายกอบจ.กระบี่ กล่าวว่า กระบี่เป็นเรื่องราวที่กล่าวขานมายาวนานโดยเฉพาะชาวประมงชายฝั่งทะเล ชาวประมงนับถือพญานาคช่วยดูแลคุ้มครองเวลาออกเรือจับสัตว์น้ำ มีนิทานปรัมปราเล่าขานยาวนานเห็นว่าบริเวณนี้ เป็นที่สถิตอยู่ของพญานาคที่ทุกคนเชื่อกัน แปลงเขานาค หงอนนาค สะดือนาค อยู่ที่นี่ ความเชื่อองลูกประมงทุกคนนับถือเสมอมา
ที่มาของปู่ภุชงค์นาคราช มีที่มาที่ไม่คาดฝัน
ที่มาของปู่ภุชงค์นาคราช มีที่มาที่ไม่คาดฝันว่าจะสร้างที่นั่น ขณะที่นั่งทำงานที่ห้องช่วงนั้นประมาณบ่ายสอง ปกติไม่นอนกลางวันแต่วันนั้นปากกาจะหล่นตลอด หาน้ำกาแฟดื่ม ปากกาก้จะหล่นตลอดเวลา จึงไปเอนหลังที่โซฟา และเข้าฝันว่าบริเวณอบจ.น้ำท่วมมีคนมาปลุกให้ไปปดงาน หลังพิธีปิดกลับมานั่งห้องทำงาน เมื่อผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ ก็มีแม่ค้ามีการจัดงานผู้สูงอายุให้เขามาเลี้ยงอาหาร แม่ค้าเข้าทรง คนบอกว่าพญานาคมาเข้าทรง จึงขอที่คนพาพญานาคมาห้องทำงาน จึงถามว่าเป็นอย่างไร ท่านบอกอยู่สบายแล้วแต่ถ้าให้ดีให้กระบี่ทุกคนอยุ่สบาย วันที่เอ็งนอนวันนั้น ให้เอ็งสร้างองค์พญานาคด้วยเงินตัวเอง ห้ามคนอื่นร่วมด้วย ก้รับปากท่าน แล้วเรียกให้คนไปหาช่าง ก็ไปกองช่างมาคุยด้วย คิด 9 แสน หลังสร้างเสร็จก็มาเข้าทรงอีก บอกองค์เสร็จแล้วใครจะช่วยก็ให้เขาช่วย ปีนั้น 2551-2552 ในการสร้าง
มีเข้าทรงอีก ก็ถามชื่อท่าน ่านบอกชื่อภุชงค์ ก็ไปหาชื่อ มีจริง จากนั้น มีคนมาบอกจะต้องสร้างบริวารให้ท่าน ก็เลยสร้างองค์นาคี พอเริ่มก่อสร้างท่านก็มาทรงโกรธผมมากตอนนี้เราเป็นนักรบมาสร้างมีให้อย่างไรให้เปลี่ยนใหม่โดยเร็ว จึงสร้างอีกองค์ให้เป็นบริวารนาคา ท่านบอกถ้าจะให้กระบี่อยู่อย่างมีความสุขให้สร้างพระพุทธรูปปางสมุทรแต่ก็ยังไม่ได้สร้าง แต่ก็ดลใจให้สร้างมาถึงวันนี้เป้นที่มาของการสร้างและนัถือองคืพยานาค
สมชาย หาญภักดีประติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆมาสู่กระบี่ ไม่แปลกใจทำไมกระบี่ต้องเป็นจังหวัดแรกของประเทสไทย ทำไมต้องเป็นที่หนึ่งผมรับราชการที่นี่มา 31 ปี อะไรก้เป็นอันดับ 1 ของโลก ทะเลกระจกก็เป็นที่ 1 กระบี่ถูกตั้ง5 พค.2415 ทุกอย่างไมีมีความบังเอิญ ถูกกำหนดมาแล้ว มีสิ่งดีๆเข้ามา โดยเแพาะพยานาค เดินทางเข้ามา ตรงนี้เรียกทับแขกคือพี่น้องมุสลิม ที่นี่มีโต๊ะนาค คือพี่น้องมุสลิมเคารพมาแต่อดีต เป็นความเชื่อความศรัทธา มีในภูมิประเทสจริง อย่างเขาหงอนนาคข้างบนเย้นเหมือนต่าปงประเทศ มีน้ำแร่ ดินแดนแห่งน้ำพญานาคให้มาเป็นการเปิดประตูประวัติศสตร์ ทั้งคลองท่อม ร้านตะโกลา สอดคลองกับที่บอกว่ากระบี่เป็นศูนย์กลาง ที่คลองท่อมเจออุปกรณืการหล่อแสดงว่าเมื่อก่อนเจริญมาก คงต้องมีการค้นคว้าเพิ่มเติมในการส่งต่อให้ลูกหลานและแรงขับในการพัมนาเมือง หากทุกภาคส่วนช่วยกันจะเปิดประตูนำศรัทธา คำสั่งสอนพระพุทะเ้าเป็นตัวหล่อหลอมกล่อมเกลาคนกระบี่และคนไทยและนำการท่องเที่ยวมาสู่กระบี่
พระเมธีวรญาณ กล่าวว่า วันนี้ทุกท่านมาร่วมกันเปิดประตูอารยะรรมสักดิ์สิทธิ์ จากการวิจัยเรื่องอิทธิพลความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคที่มีอิทะิพลต่อสังคมไทย มีการค้นคว้ามาถึงกระบี่ไม่มีที่นี่มีความสมบูรณืพร้อมขององคืประกอบ ที่กระบี่มีเขาหงอนนาค สะดือนาคอยากขึ้นไปชมก็ ไปถึงจุดเขาหงอนนาค ไปสวดสาธยายที่บ่อน้ำตานาค และมีสะดือนาค หางนาค ท้องนาค มีความครบพร้อมทางกายภาพของพญานาค
หงอนนาค มีความสำคัญ เป็นสัญลักษณ์ของมงกุฎที่สวมลงไปจากนาคธรรมดาเป้นพญานาค เช่นกระบี่มีเขาหงอนนาค มีมงกุฎที่สวมอยู่บนนาคและมีเส้นทางี่แผ่ขยาย
น้ำตานาค ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี น้ำไม่เคยขาด เป็นน้ำตาแห่งปิติหรือความสงสารเป็นน้ำตาเย็น แห่งความเมตตา สามารถเป็นยารักาาโรคได้ จึงเป็นน้ำตาแห่งความเมตตากรุณาที่พญานาคมีต่อคนในพื้นที่ ให้คนในพื้นที่ได้ับผลของความวิริยะอุตสาหะ
มีต้นรุพรักษาหรือต้นพระศิวะ เขาว่ามีเพียงเมล้ดเดียวสามารถทำให้เจ้าของไม่ตกอบายภูมิได้ มาจากความสงสารของพระศิวะที่ตกลงมาเป็นต้นไม้ออกดอกออกผลน้ำตาพญานาคก็เช่นกัน ทำให้อานุภาพคของความศรัทะา วิริยะ
สะดือนาคคือขุมพลังใหญ่ของพญานาค ร้านค้าโรงแรมหมู่บ้านได้อาศัยน้ำจากสะดือนาคตลอดทั้งปี จึงเป็นขุมพลังเป็นจุดที่ลึกที่สุด สะดือจึงเป้นขุมพลังสำคัยที่จะขับเคลื่อนบ้านเมืองหรืออาราบริเวณให้ไปข้างหน้าและพญานาคจะเลื้อยไปให้ประสบความสำเร็จได้
พญานาคเป้นผู้มีบทบาทสำคัยตั้งแต่สมัยพระพุทะเจ้า เหมือนกาฬพญานาคที่เฝ้าดูแลถาดพระพุทธเจ้าที่เนรัญชลา เสวยวิมุติสุขสัปดาห์ที่ 6 ท่านมุจลินทร์ ที่กระบี่ต้องพิสูจน์ความเชื่อเรื่องพญานาค มีอะไรแตกต่างจากทางอีสาน ศรัทธาทำให้เกิดปาฏิหาริย์ศรัทธาทำให้เกิดปัญญา รื่องพญานาคจึงนำมาให้รู้สิ่งสูงสุดจนกลับมาสู่สามัญ
พี่อ๊อดบอกที่โรงแรมมีแต่ต้นมุจรินทร์ และใช้น้ำจากบ่อสะดือนาค
พระครูอินเดีย เล่าการทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา
สมชาย กุสนสมบัติ กล่าวถึงคำพูดเสมอคือะรรมะจัดสรร ผมก็นับถือแบบทั่วๆไปปี2547